มิติหุ้น – จากการระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ได้ขยายไปยังหลายประเทศ และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 กรุงศรี กรุ๊ป จึงได้ออกมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ฉบับที่ 6 ให้พนักงานของกรุงศรี กรุ๊ป และผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม ดังต่อไปนี้
- ห้ามพนักงานเดินทางไปต่างประเทศทุกประเทศด้วยภารกิจของธนาคาร (Business Trip) ในทุกกรณี รวมถึงการเดินทางด้วยภารกิจส่วนตัว ไป-กลับ หรือผ่าน (Transit) ประเทศดังต่อไปนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน เวียดนาม มาเลเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมัน หากมีความจำเป็นที่ต้องเดินอย่างยิ่งยวด การเดินทางต้องได้รับอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงสุดเท่านั้น
- หากได้รับอนุมัติให้เดินทาง พนักงานต้องกรอกแบบฟอร์มการเดินทางไปต่างประเทศ และธนาคารไม่อนุญาตให้พนักงานเข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากวันที่กลับมาถึงประเทศไทย โดยในระหว่างนั้นขอให้ปฏิบัติตามระเบียบเรื่อง การให้พนักงานปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home)
- ในระหว่างหยุดพักสังเกตอาการในระยะเวลา 14 วันนั้น ให้พนักงานงดเดินทางออกจากที่พำนัก และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยเคร่งครัด
- พนักงานที่อยู่ในช่วงเฝ้าดูอาการ 14 วัน ต้องรายงานข้อมูลสุขภาพผ่านแบบฟอร์มรายงานสุขภาพทุกวัน หากพบว่ามีอาการเป็นไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หายใจติดขัด เหนื่อยหอบ เจ็บคอ แน่นหน้าอก ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หรือเข้าข่ายอาการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงระยะเวลา 14 วันดังกล่าว โดยเฉพาะมีไข้เกิน 37.5 องศาเซียลเซียส ขอให้พนักงานรีบเดินทางไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดทันที และถ้าพบว่าป่วยด้วยอาการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องรีบแจ้งผู้บังคับบัญชาและกลุ่มงานทรัพยากรบุคคล และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด
- กรณีที่มีสมาชิกในครอบครัวพนักงานที่พักอาศัยในสถานที่เดียวกันมีการเดินทางไป-กลับ รวมถึงการเดินทางผ่าน (Transit) สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน เวียดนาม มาเลเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมัน พนักงานต้องรายงานรายละเอียดการเดินทางของบุคคลเหล่านั้นผ่านทางแบบฟอร์มการเดินทางไปต่างประเทศ พร้อมทั้งแจ้งผู้บังคับบัญชาและกลุ่มงานทรัพยากรบุคคล และหยุดพักสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่สมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับมา
- หลังจากครบ 14 วัน หากไม่พบอาการป่วยหรือมีไข้ในระยะเวลา 14 วัน พนักงานสามารถกลับเข้ามาปฏิบัติงานได้ตามปกติ โดยยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 14 วัน และล้างมืออย่างสม่ำเสมอ
- พนักงานที่มีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้ลาป่วยทันที และรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยละเอียด
- สำหรับบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานภายในธนาคาร อาทิ Vendors, Outsources, Consultants ขอให้ปฏิบัติตามประกาศของธนาคารโดยเคร่งครัด
นอกจากนี้ กรุงศรี กรุ๊ป ยังได้สื่อสารและประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และแนวทางการปฏิบัติเพื่อระวังและป้องกันตัวจากโรคดังกล่าวแก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กรุงศรีขอเน้นย้ำว่าธนาคารมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสที่เป็นมาตรฐานตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยธนาคารได้ติดตั้งกล้องถ่ายภาพความร้อนสำหรับวัดอุณหภูมิ หรือ Thermo Scan และกำหนดจุดคัดกรอง ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ถนนพระรามที่ 3 พร้อมทั้งจัดให้มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำในบริเวณที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด โดยเพิ่มรอบการทำความสะอาดราวบันไดเลื่อน ปุ่มลิฟท์ พ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณโถงลิฟท์ รวมทั้งจัดหาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ บริเวณหน้าลิฟท์และประตูทางเข้าอาคาร โดยคำนึงถึงสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน ลูกค้าและผู้มาติดต่อเป็นสำคัญ
–จบ–
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 75 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 690 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 650 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,902 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 9.1 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย
กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 3,000 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 180,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปัน สู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english