ดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มฟื้นตัว แต่ยังมีความผันผวนระหว่างสัปดาห์ โดยมีข่าวลบสลับบวก ถ่วงดุลกัน ข่าวลบคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปยังประเทศต่างๆนอกจากจีน โดยเฉพาะที่สหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ข่าวดีคือการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางและรัฐบาลประเทศต่างๆ อย่างไรก็ดีเราประเมินว่าการประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายแบบฉุกเฉินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมทั้งมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะทำการลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกครั้งในการประชุมวันที่ 18 มี.ค. นี้ กลับเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลในระยะสั้นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯและทั่วโลก อาจจะย่ำแย่กว่าคาด เฟดจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เข้มข้นกว่าปกติ สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงคาดว่าจะผันผวนเช่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปัจจัยลบที่ยังต้องติดตามคือการแพร่ระบาดของไวรัสฯในประเทศเศรษฐกิจสำคัญๆของโลกนอกจากจีน และโอกาสในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยเฉพาะจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีการประชุมในวันที่ 12 มี.ค. ทำให้คาด SET index ผันผวนในกรอบแนวรับ 1,320 จุด และ 1,290 จุด / แนวต้าน 1,390 จุด และ 1,400 จุด
สำหรับในเชิง Valuation เราประเมินตลาดหุ้นไทยขณะนี้ เรายังประเมินว่า “ไม่แพง” เนื่องจาก Earnings yield gap ที่ระดับ SET index ปัจจุบันนั้น ยังมี Earnings yield gap สูงมากกว่า 5% ซึ่งหากเป็นสถานการณ์ปกติจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น อย่างไรก็ดีเราประเมินว่า Valuation นั้นอาจจะยังไม่สามารถเชื่อถือได้ เนื่องจากยังมีโอกาสที่นักเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จะทำการปรับลดประมาณการฯ ทั้งตัวเลข GDP และกำไรของบริษัทจดทะเบียนลงอีก ดังนั้นเราแนะนำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เท่านั้น ในการเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานดี เพื่อหวังผลการฟื้นตัวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสฯเริ่มคบคุมได้ เน้นที่ Valuation ต่ำ และ Dividend yield สูง เป็นหลัก ii) นักลงทุนที่รับเสี่ยงได้น้อย รอสถานการณ์เริ่มนิ่งกว่านี้ก่อน แล้วค่อยสะสมหุ้นหลักๆ เช่น หุ้นค้าปลีก สื่อสาร โรงไฟฟ้า
โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์
www.mitihoon.com
