ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ว่า BCPG เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการ Nam San 3A ขนาด 69 MW เมื่อเดือน ก.ย. 62 ทำให้บริษัทจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2563 และเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังนโครงการ Nam San 3B ขนาด 45 MW เมื่อเดือน ก.พ. 63 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่เดียวกัน ทำให้บริษัทจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/63 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังได้ลงนายขายไฟในโครงการ Nam San 3A และ 3B ขนาดรวม 114 MW ให้กับประเทศเวียดนาม (EVN) ภายในไตรมาส 3/65 ภายหลังจากขายไฟให้ประเทศลาว (EDL) ส่งผลให้ได้รับค่าไฟเฉลี่ยตลอดทั้งโครงการเพิ่มขึ้น 10% และขยายอายุสัญญาอีก 5 ปี จากเดิม จะหมดอายุในปี 2585 เป็นปี 2590
ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศลาว ขนาด 600 MW คาดจะเซ็น PPA และแจ้งรายละเอียดได้ในปี 2563 และ COD ภายในในปี 2566 (ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่รวมไว้ในประมาณการ) อย่างไรก็ตาม โรคระบาด จากไวรัส Covid-19 ส่งผลกระทบการก่อสร้างในประเทศญี่ปุ่น ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Komadane ขนาด 25 MW เลื่อน COD จากครึ่งปีหลังปี 63 เป็นไตรมาส1/64 ทั้งนี้จะช่วยหนุนให้กำไรปกติทั้งปี63 ปรับตัวดีขึ้น
ปรับราคาเป้าหมายลง แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี62 ขึ้นเป็น 1,968 ลบ. (+15.4% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 4 ปี ภายหลังจากรวมโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำโครงการ Nam San 3A และ 3B ที่ประเทศลาว ขนาด 114 MW และจากการเลื่อน COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Komagane ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 25 MW จึงได้ปรับราคาเหมาะสมปี63 ลงเป็น 20.90 บาทต่อหุ้น จาก 21.50 บาทต่อหุ้น เนื่องจากความเสี่ยงในการลงทุนที่มากขึ้น และได้เพิ่มผลตอบแทนของตลาดหุ้น (Rm) จาก 9% เป็น 10% ทำให้อัตรา discount rate เพิ่มขึ้นและคาดเงินปันผลปี 2563 ที่ 0.64 บาทต่อหุ้น หรือให้ผลตอบแทนถึง 4.2% มี Upside gain 37.5% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com
