มิติหุ้น-PLT สุดเฮง “ธุรกิจเข้าสู่ช่วงขาขึ้น” เหตุน้ำมันดิ่ง กดราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นต้นทุนหลักลดลง จับตาผลงานไตรมาส4/62-63 (ม.ค.-มี.ค.63) พุ่งกระฉูด ชูกลยุทธ์เน้นผลิตภัณฑ์ HVA มั่นใจสร้างรายได้มั่นคงระยะยาว แย้มปัจจัยพื้นฐานแกร่ง กำไรสะสมสูง 1.1 หมื่นล้านบาท P/E ต่ำเพียง 4 เท่า แนะนำ “ซื้อ” เป้า 13 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย)หรือ PTL ผู้ผลิตและจำหน่าย Polyethylene Terephthalate Film หรือ Polyester Film (แผ่นฟิล์ม PET หรือแผ่นฟิล์ม Polyester) โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/62-63 (ม.ค.-มี.ค.63) จะเติบโตโดดเด่น เนื่องจากได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงซึ่งกดให้ “ราคาเม็ดพลาสติก” ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
ธุรกิจขาขึ้น-เป้า13บ.
โดยกระบวนการผลิตของ PTL ใช้เม็ดพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate Resin) เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ดังนั้นเมื่อราคาเม็ดพลาสติกลดลงก็จะทำให้ต้นทุนลดลง สนับสนุนให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น และด้วยปัจจัยนี้เองได้สนับสนุนให้ธุรกิจ PTL “กลับเป็นขาขึ้นทันที” ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง กำไรสะสมสูง 1.1 หมื่นล้านบาท D/E ต่ำเพียง 0.36 เท่า หุ้นซื้อขายบน P/E 4 เท่า แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 13 บาท
ด้าน “นายอาชิช กุมาร์ โกช” กรรมการ PTL เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงไตรมาส 4/62-63 (ม.ค.-มี.ค.63) จะเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่า EBITDA จะปรับตัวดีขึ้น จากไตรมาสก่อน โดยเป็นผลมาจากการเดินเครื่องสายการผลิตแผ่นฟิลม์ BOPET ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในช่วงเดือน พ.ย.62 มีกำลังการผลิต 4.4 หมื่นเมตริกตัน
ชูผลิตภัณฑ์ HVAอัพโต
สำหรับ “โครงการลงทุนสายการผลิตแผ่นฟิลม์ BOPP ในประเทศอินโดนีเซีย” คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 64/65 กำลังการผลิต 6 หมื่นเมตริกตัน ส่วนการลงทุนขนาดเล็กของโรงงานในไทยและตุรกี ซึ่งใช้งบลงทุนรวม 22-24 ล้านเหรียญสหรัฐนั้นจะช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง หรือ ผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง
“บริษัทจะใช้กลยุทธ์เน้นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าสูง หรือ HVA เพราะจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและทนต่อความผันผวนของอุตสาหกรรมในลักษณะที่ดีขึ้น” นายอาชิช กล่าว
ล่าสุด PTL ผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET ภายใต้ตราสินค้า “Sarafil” ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยมีลูกค้าในอุตสาหกรรมหลัก คือ บรรจุภัณฑ์ คิดเป็น 58.90% , อุตสาหกรรม คิดเป็น 40.66% และอุปกรณ์ไฟฟ้า คิดเป็น 0.44% ของยอดขายรวม โดยลูกค้าจะนำแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางของบริษัทไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายให้แก่ ผู้ใช้ต่อไป เช่น ซองบรรจุกาแฟ ชา ขนมขบเคียว ซองบรรจุภัณฑ์สำหรับ น้ำยาปรับผ้านุ่ม และผงซักฟอก ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า ตลอดจนแผ่นฟอยล์สีต่างๆ เป็นต้น
www.mitihoon.com
