นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า SET ผันผวนอย่างหนัก ปรับตัวลดลงกว่า 9% หรือลดลง 118.19 จุด แตะที่ระดับ 1,131.70 จุด นับเป็นการปรับตัวลดลงที่มากกว่า 100 เป็นครั้งที่ 2ในรอบเดือน มี.ค. โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มี.ค.63 และเกือบต้องใช้มาตราการ “Circuit Breaker” (หยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราวหลังดัชนีลดลงถึง 10%เป็นเวลา 30 นาที) ล่าสุด SET ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2013
โดยเกิดจากความกังวลการแพร่ระบาด “เชื้อไวรัสโควิด 19” หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศยกระดับ “ไวรัสโควิด-19” ขึ้นสู่โรคระบาดระดับโลก (Global Pandemic) หลังยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นทะลุ 126,093 ราย และมีผู้เสียชีวิต 4,628 ราย รวมถึงพบการระบาดใน 114 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังกดดันเพิ่มเติม หลังซาอุดิอาระเบียประกาศเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน
“บล.หยวนต้า” เปิดเผยว่า กรณีที่แย่สุด ดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสทดสอบที่ 950 จุด แนะนำพักเงินไว้ในกลุ่มสื่อสาร และ หุ้นปันผล แนะนำ STA DIF ADVANC INTUCH และ ทองคำเป็นทางเลือกในการลงทุน
ด้น “บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส” เปิดเผยว่า SET มีแนวโน้มปรับลง หลังเจอปัจจัยลบ WHO ประกาศโควิด-19 เป็นโรคระบาด , กังวลผลกระทบ “ทรัมป์” ประกาศแผนกระตุ้นล่าช้า FedWatch ส่วนใหญ่คาดเฟดลดดอกเบี้ยถึง 1% แสดงว่าเศรษฐกิจย่ำแย่ ,ราคาน้ำมันปรับลงต่อเนื่อง
โดย กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เลือกลงทุน “ทยอยสะสม” หุ้นแบบถอยรับเป็นระยะๆ โดยเฉพาะที่แนวรับเน้นหุ้น Defensive และปันผลสูง หลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำ “ซื้อ” Defensive- ADVANC-BTS-CHG-CPN, ปันผลสูง-KKP-TISCO-AP-LH, เติบโต-ฟื้นตัว- MTC-TU-STEC และ เก็งกำไรเมื่อราคาน้ำมันฟื้น- PTT-PTTEP-TOP-PTTGC
ด้านข่าวน่าสนใจ คือ 1.SCB ซื้อหุ้นคืน อาจปรับขึ้นช่วงสั้น แต่ยังมี Downside แนะนำเต็มมูลค่า , 2. KTC ได้ประโยชน์ TFRS 9 ตั้งสำรองหนี้สูญลด รายได้เพิ่ม ไม่ได้วิเคราะห์, 3..BTS ลงแรงกังวลผู้โดยสารลด แต่เห็นว่าผลกระทบจำกัด แนะนำ “ซื้อ” และ 4.กลุ่มรับเหมาปันผลคึกคัก มี STEC และ SYNTEC
www.mitihoon.com
