‘พรินซิเพิล’ส่องแนวโน้มลงทุนปี63 เตรียมรับมือราคาสินทรัพย์ผันผวนสูง

57

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.พรินซิเพิล เปิดเผยว่า การลงทุนในปี 2563 มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือความผันผวนของราคาสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น จากปัจจัยเชิงลบ เช่น ความไม่แน่นอนจากภาวะสงครามการค้า การแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รวมถึงปัจจัยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะภาครัฐของแต่ละประเทศจะเริ่มส่งสัญญาณนโยบายการคลัง-การเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้จากมุมมองดังกล่าว ทางบลจ.พรินซิเพิลแนะนำการลงทุนในกองทุนเปิดพรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์ หรือ Principal Strategic Income Fund (PRINCIPAL SIF) ซึ่งเป็นกองทุนแบบผสม ที่มีกลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ผสมผสานการลงทุนใน “ตราสารหนี้” ที่มีความมั่นคงและมีคุณภาพ Investment Grade กับ “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือรีท” คุณภาพดีและมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการพอร์ตที่สร้างรายได้ประจำที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้แต่มีความผันผวนต่ำ

ผู้จัดการกองทุนภายใต้ทีมผู้จัดการกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกและทีมผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ ร่วมกันกำหนดกลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตการลงทุน การปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมและมีกระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอินฟราสตรัคเจอร์ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs

ในขณะเดียวกันมีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้นคุณภาพมีการเติบโตและจ่ายเงินปันผลสูง การ Rebalancing Model เพื่อควบคุมความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม และลดความผันผวนในการลงทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ สามารถสร้าง Income Return ที่เหมาะสมให้กับท่านนักลงทุนได้

กองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในปี 2562 ให้อัตราผลตอบแทน 11.58% เทียบดัชนีเปรียบเทียบ 15.76% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (19 พฤษภาคม 2559) ให้อัตราผลตอบแทน 6.38% ต่อปี เทียบดัชนีเปรียบเทียบที่ 7.35% (ข้อมูล ณ 31 ม.ค. 2563) และกองทุนนี้ยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จากมอร์นิ่งสตาร์ ประเทศไทย (31 ธ.ค. 2562)

“ภายใต้สถานการณ์ราคาสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น กองทุนเปิดพรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์ เป็นทางเลือกกระจายการลงทุนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ โดยคาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 3.5% ต่อปี” นายจุมพลกล่าว