LPN สร้างแพลตฟอร์มงานขายใหม่ ทำยอดขายกว่า 750 ลบ.

402

มิติหุ้น – LPN ปรับกลยุทธ์การขายโครงการ “ลุมพีนี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” ผ่านระบบโทรศัพท์ (Telesales) เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่-2019 (โควิด-19) ทำยอดขายแตะระดับร้อยละ 70 ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย สะท้อนกำลังซื้อในตลาดยังไปได้ ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอตัว

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์การขายโครงการ  “ลุมพีนี เพลส เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์” ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการติดต่อกับลูกค้าที่เยี่ยมชมโครงการและลงทะเบียนแสดงความสนใจซื้อโครงการก่อนหน้านี้ทางโทรศัพท์ ในระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากการที่ลูกค้าจำนวนมากมาชุมนุมกันที่สำนักงานขายของโครงการในวันเปิดขายจริงวันที่ 7-8 มีนาคม 2563

“การนำระบบการติดต่อกับลูกค้าทางโทรศัพท์มาใช้ในช่วงวันที่ 5-6 มีนาคม ช่วยลดปริมาณของลูกค้าที่เดินทางไปที่สำนักงานขายในวันที่เปิดขายระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคมลงไปได้มาก และยังสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 300 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย สร้างยอดขายขายกว่า 750 ลบ. ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อในตลาดที่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ในทำเลที่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้า ในระดับราคาที่เหมาะสม ถึงแม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอตัว” นายโอภาส กล่าว

โครงการลุมพีนี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกที่ LPN เปิดขายในปี 2563  เพราะมองเห็นศักยภาพของทำเลเตาปูน – บางซื่อ ที่เป็นทำเลที่ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจของบริษัทพบว่า ย่านนี้มีบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 12,500 คน รวมทั้งทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับรัฐสภาใหม่ที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่มากกว่า 2,000 คน ประกอบกับทำเลนี้อยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงสถานีบางซื่อ-ท่าพระ และการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในต้นปี 2564 ที่คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการไม่น้อยกว่า 200,000 คนต่อวัน ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยที่อยู่โดยรอบพื้นที่เตาปูน ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและมีชุมชนโดยรอบเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อยูนิต

เมื่อสถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการในปี 2564 สถานีกลางบางซื่อจะกลายเป็นสถานีศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยจะมีรถไฟฟ้าถึง 4 สายที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน รวมทั้งยังเป็นสถานีต้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กิโลเมตร และกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีส่วนต่อขยายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ 5 สถานี จากสถานีพญาไทเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ

 “เตาปูนเป็นทำเลที่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ และมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่าน ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และเพื่อการลงทุน โดยการซื้อเพื่อการลงทุนให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปี โดยมีการปล่อยเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000 – 10,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องที่มีพื้นที่ประมาณ 22-28 ตารางเมตร ในแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เหมาะสำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน”  นายโอภาสกล่าว

โครงการลุมพีนี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโดสูงขนาด 30 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 3 ไร่ จำนวนห้อง 710 ยูนิต มีห้องพักให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) รูปแบบสตูดิโอ ขนาด 22.50 – 23.00 ตร.ม. 2) รูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.00 – 34.00 ตร.ม. 3) รูปแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43.00 ตร.ม. มูลค่าโครงการรวม 1,780 ล้านบาท  ปัจจุบันโครงการได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว

โครงการ ลุมพีนี เพลส เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ อยู่บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี  ใกล้รถไฟฟ้าสถานีเตาปูนเพียง 100 เมตร พร้อมเชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างรวดเร็วด้วยทางด่วนศรีรัชฯ ภายในโครงการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ โถงพักผ่อน ห้องอเนกประสงค์ ห้องคุณหนู สระว่ายน้ำ ห้องเฮ้าส์เวิร์ก สวนอินฟินิตี้ ฟิตเนสและสวนดาดฟ้า พร้อมที่จอดรถ 278 คัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. Grand Opening ราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LPN Call Center 02-689-6888 หรือ www.lpn.co.th