การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สุดจะยับยั้ง ฉุดทุกภาคธุรกิจและทุกอุตสาหกรรมให้ตกอยู่ในภาวะซบเซา และโดยเฉพาะในภาคของกำลังซื้อผู้บริโภคที่นับวันจะยิ่งฝืดเคือง กดดันความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อลดลง แต่มีธุรกิจหนึ่งที่ถูกจับตามองว่าจะได้ประโยชน์ในสภาวะเช่นนี้ นั่นคือ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและผู้ให้บริการติดตามหนี้
กำลังซื้อหดผลักNPLขยับแรง
ดังนั้น Market Special จึงเชิญผู้บริหารหนุ่มมากความสามารถ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO มาชี้ชัดกันไปเลยว่า เมื่อความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อของคนลดลง จะทำให้หนี้ NPL ในระบบสูงขึ้นไปถึงระดับไหน แล้ว CHAYO จะเติบโตจากการติดตามทวงถามหนี้ไปได้ขนาดไหน
งานนี้ “สุขสันต์” บอกชัดเจนว่า จากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 บวกกับเศรษฐกิจที่ถดถอย และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่ตกต่ำต่อเนื่อง จะผลักดันให้จำนวนหนี้ NPL ในระบบสูงถึง 500,000 ล้านบาท และเป็นหนี้ NPL ที่สถาบันการเงินจะปล่อยออกมาประมูลราว 200,000-300,000 ล้านบาท ถ้าจะถามว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลหรือไม่ แน่นอนว่าคงจะสบายใจไปไม่ได้ แต่ในเมื่อเหรียญยังมีสองด้าน ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส และ CHAYO ก็ไขว่คว้าโอกาสนั้นได้
เดินหน้าลุยซื้อหนี้เข้าพอร์ตหมื่นล้าน
ปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของ CHAYO แบ่งเป็น ธุรกิจซื้อหนี้มาบริหารประมาณ 75-80% ธุรกิจให้บริการเร่งรัดหนี้สินประมาณ 15- 20% และธุรกิจปล่อยสินเชื่อประมาณ 1-5% ของรายได้ทั้งหมด
สำหรับในปี 63 บริษัทวางแผนการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าหมายซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีกกว่า 10,000 ล้านบาท โดยจะใช้งบลงทุนเพื่อซื้อหนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน 700-800 ล้านบาท มีมูลค่าหนี้ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท และจะซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกันเข้ามาอีก 200 – 300 ล้านบาท มีมูลค่าหนี้ประมาณ 7,500 ล้านบาท
ตั้งตารอผลประมูลหนี้แบงก์
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ได้เปิดข้อกําหนดของผู้ว่าจ้าง(TOR) เพื่อให้เอกชนเข้าร่วมประมูลซื้อหนี้เสียแบบมีหลักประกันทั้งหมด มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท โดย CHAYO ได้เข้าร่วมประมูลด้วย และคาดหวังได้หนี้เข้ามาบริหารประมาณ 10% ของมูลค่ารวม ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้ หากทุกอย่างเป็นตามที่คาดหมาย พอร์ตหนี้ในมือของ CHAYO จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และน่าจะคาดหมายได้ว่า ผลประกอบการของ CHAYO จะต้องพุ่งตามขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
โดยแนวโน้มผลงานไตรมาส 1/63 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.47 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 75.40 ล้านบาท เพราะสามารถบริหารหนี้และเร่งรัดหนี้สินได้ดีขึ้น
ปักธงรายได้ทำนิวไฮ
นอกจากธุรกิจติดตามหนี้แล้ว CHAYO ยังทำ “ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ” ด้วย ซึ่งในปี63 นี้ บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มอีกราว 200-250 ล้านบาท เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว ยิ่งทำให้ความต้องการในการใช้สินเชื่อเร่งตัวสูงขึ้น เห็นได้จากปัจจุบันที่มีลูกค้าเข้ามาขอสินเชื่อเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม CHAYO เองตระหนักดีว่าในภาวะแบบนี้ การปล่อยสินเชื่อต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและรอบคอบที่สุด เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเป็น NPL ได้ง่าย
ทั้งนี้ CHAYO ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 63 นี้ เป็นตัวเลขในระดับที่สูงกว่าปีก่อนหน้า หรือจะใช้คำว่า New high ก็ได้ เพราะเป้าหมาย คือ รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 317.91 ล้านบาท
เอาเป็นว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ CHAYO วางไว้ ราคาหุ้น CHAYO ก็น่าจะต้องดีดรับไปอีกไกลโขนะทุกท่าน คำว่า “ติดเทอร์โบ” อาจยังน้อยไป ณ จุดนี้.
www.mitihoon.com