ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP ทำธุรกิจค้าปลีก-ส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” โดย “นักวิเคราห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ในระยะสั้นๆมองว่า TNP จะได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” ทำให้ประชาชนตื่นตัวเริ่มกักตุนอาหารกันมากขึ้น ส่งผลให้ TNP มียอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ปัจจุบัน TNP มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งสามารถทำกำไรสุทธินิวไฮต่อเนื่อง 4 ปี มีกำไรสะสมสูง 207.03 ล้านบาท D/E ต่ำเพียง 0.23 เท่า P/E ต่ำกลุ่ม 15 เท่า ส่วนสัญญาณทางเทคนิค “เริ่มกลับตัว” เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.90 บาท อย่างไรก็ดีหากหลุดที่ 1.70 บาท ให้ “Stop Loss”
ก.พ.-มี.ค.ยอดขายพุ่งเท่าตัว
ด้าน “เภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ” รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” ทำให้ประชาชนตื่นตัวเริ่มกักตุนอาหารกันมากขึ้น จนล่าสุดเมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ยอดขายใน “ธนพิริยะ” เพิ่มขึ้นเป็น “เท่าตัว” อย่างไรก็ดีบริษัทเริ่มเห็นสัญญาณประชาชาชนกักตุนสินค้านับตั้งแต่เดือน ก.พ.63 แล้ว ซึ่งบริษัทเองก็มีการเตรียมสินค้าเพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดีทั้งปี 63 บริษัทยังคงเป้ายอดขายเติบโต 10-15% ซึ่งจะเน้นยอดขายจาก “ธุรกิจค้าปลีก” มากกว่า “ธุรกิจค้าส่ง” เนื่องจากอัตรามาร์จิ้น “กลุ่มธุรกิจค้าปลีก” อยู่ที่ประมาณ 13-16% สูงกว่า “ธุรกิจค้าส่ง” ส่วนแผนการขยายสาขาในปี 63 คงเน้นขยายสาขาใหม่ให้ครอบคลุมจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง เพราะจังหวัดเชียงรายมีศักยภาพในการเติบโตเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของประเทศไทย โดยปี63 ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา ทำให้สิ้นปีมี 33 สาขา จากสิ้นปี 62 ที่ 28 สาขา ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคเหนือ แบ่งเป็น จังหวัดเชียงราย 23 สาขา, จังหวัดพะเยา 4 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา
พร้อมกันนี้บริษัทจะมองหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
www.mitihoon.com