มิติหุ้น-บมจ.ซีพี ออลล (CPALL) โดยนายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 63 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน(Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ลบ. จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน 180 ล้านหุ้นคิดเป็นร้อยละ 2 ของหุ้นจำนวนทั้งหมด โดยกำหนดช่วงระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 ก.ย.63 โดยราคาซื้อคืนจะไม่เกินกว่าร้อยละ 115 ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทําการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ทํารายการซื้อหุ้น คืน ทั้งนี้ ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันทําการ ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 63 ถึงวันที่ 13 มี.ค. 63 เท่ากับ 68.75 บาทต่อหุ้น
โดยบริษัทมีกำไรสะสมณ สิ้น 31 ธ.ค.62 ที่ 48,682 ลบ.และมีหนี้สิน 4,700 ลบ. และมีกระแสเงินสดคงเหลือ 17,895 ลบ. นอกจากนี้ บริษัทประมาณ การว่าจะมีการแสเงินสดจากการดําเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 63 ดังนั้น บริษัทจึงมีสภาพคล่อง เพียงพอในการชําระหนี้ที่จะถึงกําหนดชําระในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ผลดีจากการซื้อหุ้นคืนแก่ผู้ถือหุ้น คือมีโอกาสจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่จะซื้อคืนไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล และยังทำให้ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นด้วย
ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า CPALL ประกาศซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 1.3 หมื่นลบ. คิดเป็นราคาซื้อคืนสูงสุดที่ 72.2 บาท/หุ้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะเป็นบวกต่อผู้ถือหุ้น CPALL เดิม คือ 1) ได้รับเงินปันผลต่อหุ้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทฯซื้อคืนไม่ได้ปันผล และ 2) ROE สูงขึ้น จากทุนจดทะเบียนชำระแล้วที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า CPALL จะซื้อคืนในจำนวนไม่มาก เนื่องจากยังมีแผนที่จะต้องลงทุนซื้อกิจการกลุ่ม Tesco Asia (ไทยและมาเลเซีย) ในสัดส่วน 40% สูงถึง 3 พันล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็น 9.6 หมื่นล้านบาท (ซึ่งยังมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนหากเงินบาทอ่อนค่ามากขึ้น) โดยแหล่งเงินทุนดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าหากนำมาลงทุน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจากการก่อหนี้ในดีลดังกล่าว
www.mitihoon.com
