ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL โดย “นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) อนุมัติทุ่มงบ 1.1 พันล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 440 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 5% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว โดยกําหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 ก.ย.63 ทั้งนี้เมื่อรวมหุ้นที่ซื้อคืนจริงในครั้งที่ 1 ซึ่งบริษัทซื้อคืนระหว่างวันที่ 24-22 ต.ค. 61 จํานวน 99.04 ล้านหุ้นนั้น รวมเป็นการอนุมัติซื้อหุ้นคืนทั้งสิ้น 539.04 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6.14%
สำหรับสาเหตุในการซื้อหุ้นครั้งนี้ เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด , เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากําไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)และ เพื่อส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท
ด้าน “นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” กรรมการผู้จัดการ GUNKUL เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 1/63 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม 60 MW และโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น 34MW ที่เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบในช่วงปลายปี 62
ส่วนทั้งปี 63 ตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 9,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) แบ่งเป็น “ธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า” จำนวน 8 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปี 63 ราว 3.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างวางแผนประมูลงานใหม่อีก 4 หมื่นล้านบาทได้แก่ งานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ,สถานีไฟฟ้าย่อย ,โครงการย้ายไฟฟ้าลงใต้ดิน และย้ายสายเคเบิลใต้น้ำ คาดว่าในปี 63 จะมีมูลค่างานในมือรวม 1 ล้านบาท ด้าน “ธุรกิจเทรดดิ้งอุปกรณ์ไฟฟ้า” จะได้รับอานิสงส์จากการที่การไฟฟ้าเตรียมปรับรูปแบบมิเตอร์เดิมให้เป็นมิเตอร์ในแบบดิจิทัล มูลค่าวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี ซึ่งคาดในปีนี้ธุรกิจดังกล่าวจะเติบโต10-15%
พร้อมกันนี้ปี 63 บริษัทจะรับรู้รายได้จาก โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม กำลังผลิต 60MW และโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น 34MW แบบเต็มปี ขณะเดียวกันในเดือนพ.ค.โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่มาเลเซีย 30MW จะจ่ายไฟเข้าระบบ รวมถึงการจ่ายไฟเข้าระบบของโซล่าร์รูฟท็อปของ HMPRO และ CP กำลังผลิตแห่งละ 20-30MW
สำหรับในปี 65 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบครบประมาณ 1,000 MW จากปัจจุบันมีอยู่ 680 MW ซึ่งขณะนี้มีโรงไฟฟ้าที่รอจ่ายไฟเข้าระบบอีก 389 MW ได้แก่ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น จำนวน 2 โครงการรวม 170MW ,โรงไฟ้าโซลาร์ฟาร์มฟาร์มที่มาเลเซีย 30MW ,โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มรางเงิน 29MW ,โรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป 30MW และอยู่ระหว่างเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม 60MW
www.mitihoon.com
