มิติหุ้น – โบรกฯ ประเมินหุ้นกลุ่มค้าปลีกรับอานิสงส์ไวรัสโควิด-19 ระบาด หลังคนแห่ซื้อสินค้ากักตุนเพิ่ม หนุนยอดขายต่อสาขาพุ่งกระฉูด แนะกลยุทธ์สะสม ชู MAKRO-BJC-CPALL เด่นสุด
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากทิศทางตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนในทิศทางขาลง หลังนักลงทุนวิตกกังวลการ
แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วโลก ขณะที่ในไทยมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและต่างจับตาว่าจะมีการประกาศการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 ในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการกักตุนสินค้ามากขึ้น โดยนักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก แนะนำ “ทยอยสะสมหุ้น” หุ้นที่ได้ประโยชน์หากประกาศแพร่ระบาดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้น เช่น MAKRO, BJC และ CPALL
ลุ้นรับมาตรการกระตุ้น
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดว่ากลุ่มค้าปลีกจะได้รับอานิสงส์โดยตรงที่สุด หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐจะปล่อยออกมาส่วนใหญ่พยายามกระตุ้นที่ฐานราก เช่น การกระตุ้นจับจ่ายใช้สอยของประชาชน อาทิ อาทิ CPALL และ HMPRO ขณะที่รองลงมาคือกลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่มอาหาร ได้แก่ STEC, TU และ CPF ทั้งนี้ประเมินว่ามาตรการที่ออกมาน่าจะกระตุ้นได้ภายในระยะสั้นๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในสหรัฐและยุโรปยังไม่ถึงจุดพีค
ชู CPALL-BJC-MAKRO เด่น
นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” CPALL เนื่องจากมีความทนทานต่อเศรษฐกิจ และการระบาดของโควิด-19 และยอดขายร้านยาที่เพิ่มขึ้น 2) ได้ประโยชน์จากการบริโภคในครึ่งปีหลัง 3) การดำเนินงานของ Tesco ที่ดีขึ้น ดังนั้น แนะนำให้ “ซื้อ” CPALL โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 90 บาท
ส่วนหุ้น BJC ประเมินว่า แม้ยอดขายต่อสาขาในช่วงไตรมาส 1 จะคงที่ แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นช่วงครึ่งหลังปี 63 จากการเปิดสาขาใหม่ๆ ดังนั้น แนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าเหมาะสม 56 บาท
ขณะที่ บล.เคจีไอ ประเมิน หุ้น MAKRO แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงาน ในพื้นที่ท่องเที่ยว แต่คาดราคาสินค้าเกษตรที่สูง และการที่คนอาจจะตุนสต็อกสินค้าน่าจะช่วยชดเชยไปได้บางส่วน และมองว่าการขยายสาขาในต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว โดยยังคงคำแนะ “ถือ” ราคาเหมาะสม 37.50 บาท
www.mitihoon.com