กลุ่มธุรกิจที่ผลตอบแทนรวมปรับลดลงน้อยกว่า SET Index ในช่วง COVID-19
ในวิกฤตใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ท่ามกลางการระบาดของ COVID ที่เริ่มรุนแรงขึ้นในไทย และในอาเซียน มีหลายธุรกิจที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลังและมีบทบาทสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการควบคุมโรคโดยตรงอย่างธุรกิจโรงพยาบาล หรือช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินหากเจ็บป่วยให้กับผู้คนจำนวนมากอย่างธุรกิจประกัน หรือช่วยสนับสนุนสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างธุรกิจผลิตอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนธุรกิจค้าปลีกที่กระจายสินค้าให้ทั่วถึงและให้ความเชื่อมั่นต่อประชาชนได้ว่าสินค้าจะไม่ขาดแคลน รวมถึงธุรกิจบริการโทรคมนาคมที่พัฒนาเครือข่ายรองรับการติดต่อสื่อสารทางไกลที่เพิ่มขึ้นในทันทีเมื่อจำเป็นต้องมี social distancing
ในขณะเดียวกัน ผู้ลงทุนมองเห็นอนาคตของธุรกิจเหล่านี้แม้ในภาวะวิกฤต ผลตอบแทนรวม (Total return) จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ (รวมการเปลี่ยนแปลงราคาและเงินปันผล) ของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลงน้อยกว่ากว่า SET Index โดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มผู้ผลิตอาหาร (ไม่รวมธุรกิจร้านอาหาร) และกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิตมีผลตอบแทนรวมลดลงน้อยที่สุด 3 ลำดับแรก (ภาพที่ 1 และ 2)
ภาพที่ 1 ผลตอบแทนรวม (Total return) จากการลงทุน (%month to date)
หากพิจารณาความเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหุ้นในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่เหนือ SET Index มาโดยตลอด และเริ่มมีทิศทางฟื้นตัว ในช่วงกลางเดือนมีนาคม (ภาพที่ 2)
ภาพที่ 2 ผลตอบแทนรวม (Total return) จากการลงทุน (%year to date)
ภาพที่ 3 ความเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหุ้นรายกลุ่มธุรกิจ
การนำเสนอเชิงเปรียบเทียบในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาเพื่อชี้นำการลงทุน เพียงต้องการแสดงให้เห็นศักยภาพของบางกลุ่มธุรกิจในช่วงที่เกิดวิกฤต ผู้ลงทุนควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูง
โดย ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
www.mitihoon.com