ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ หรือ TACC โดย “นายชัชชวี วัฒนสุข” ประธานกรรมการบริหาร TACC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 1/63 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะยอดขายมีทิศทางที่ดีขึ้น จากผลกระทบกรณีที่ กทม.ประกาศปิดสถานเสี่ยงการแพร่ระบาด “ไวรัสโควิด-19” โดยยอดขายของ TACC ส่วนใหญ่อยู่ใน “ร้าน 7-11” ซึ่งได้รับประโยชน์จากการที่ กทม.อนุญาตให้เปิดร้านสะดวกซื้อได้ตามปกติ
ปักธงรายได้โต 10-15%
ทั้งนี้ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 63 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ เครื่องดื่ม “มิลค์กี้ เบอร์รี่” ส่งตรงถึงโถกดเครื่องดื่มร้าน 7-11 ทั่วประเทศ และยังได้ส่งเครื่องดื่มต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ “Valentine In love Series” ด้วยธีมผลไม้ Strawberry-Lychee ที่มุม All Café ร้าน 7-11 ซึ่งกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นกลุ่มธุรกิจ B2B Business หรือกลุ่มสินค้าที่วางจำหน่ายในร้าน 7-11 ที่ยังสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้จะเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเข้า Café Business เช่น ร้านกาแฟมวลชน ,Jungle Café,Arabitia Café, CP Fresh Mart และ Black Canyon เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของบริษัท ขณะที่เครื่องดื่ม “ชานมบุก” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการตอบรับที่ดีสามารถรับรู้รายได้ได้เต็มปี ดังนั้นทั้งปี 63 ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตที่ 10-15% จากปีก่อน
ซื้อหุ้นคืน-เพิ่มสภาพคล่อง
ล่าสุด TACC อนุมัติ “โครงการซื้อหุ้นคืน” ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน18 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท หรือ คิดเป็นจำนวนไม่เกิน 3% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท โดยเป็นการเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.-7 ต.ค.63 โดยการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงิน
กำไรนิวไฮ-เป้า7.54บ.
ด้าน “บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลกระทบจาก Covid-19 ต่อ TACC จำกัด เพราะนักท่องเที่ยวไม่ใช่ฐานลูกค้าหลักของ TACC ส่วนความกังวลต่อการชะลอตัวของการบริโภคในประเทศ มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อ TACC เพราะเครื่องดื่มของ TACC มีราคาไม่สูงทำให้ได้โอกาสจากลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย ขณะที่ลูกค้ากลุ่มเดิมอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ภาวะภัยแล้งทำให้อุปสงค์ของการดื่มเครื่องดื่มยังสูง โดยเฉพาะเครื่องดื่ม Low cost
โดยแนวโน้มไตรมาส 1/63 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล ดังนั้นทั้งปี 63 คงประมาณการกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 204 ล้านบาท เติบโต 27.6% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 7.54 บาท
www.mitihoon.com