มิติหุ้น-SEAFCO ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/63 โตเด่น เหตุทยอยบุ๊กงานในมือ 2.56 พันล้านบาทา แถมเตรียมเซ็นออเดอร์ใหม่กว่าพันล้าน และรอผลประมูลล็อตใหม่อีก 1.9 หมื่นล้านบาท โบรกชี้ปี 63-64 กำไรสุทธินิวไฮไม่หยุด พิกัดเป้า 9บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซีฟโก้ หรือ SEAFCO ทำธุรกิจรับก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ-รากฐานและงานโยธาทั่วไป โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 1/63 จะเติบโตต่อเนื่อง และดีกว่าช่วงไตรมาส 4/62 ที่มีกำไรสุทธิ 85.05 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 656.12 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 2.56 พันล้านบาท
จ่อเซ็นงานใหม่กว่าพันล.
พร้อมกันนี้ SEAFCO เตรียมเซ็นงานใหม่กว่า 1 พันล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป ซึ่งสนับสนุนให้ทั้งปี 63 กำไรสุทธิทำนิวไฮต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 9บาท
ด้าน “บล.เอเชีย เวลท์” เปิดเผยว่า แม้ในปี 63 จะมีความเสี่ยงต่อธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธินิวไฮ 2 ปี โดยปี63-64 ที่ 370 ล้านบาท และ 383 ล้านบาท ตามลำดับ โดยประเมินรายได้จากการก่อสร้างแบบอนุรักษนิยมอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาทในปี 63 และ 3.2 พันล้านบาท ในปี 64 มาจากโครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง, โครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล-ดุสิต พาร์ค เป็นหลัก
ทั้งนี้ SEAFCO ยังมี Upside จากการเข้าประมูลโครงการภาครัฐที่ออกมาได้เร็วกว่าคาด จากการที่ภาครัฐฯ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณฯ โดยมีงานประมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐฯ ที่อยู่ในไปปไลน์สูงถึง 3.6 แสนล้านบาท แนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 7.30 บาท
ลุยคว้างานใหม่1.9หมื่นล.
ด้าน “นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า การผลักดันร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจําปี 63 ทำให้เห็นภาครัฐบาลเร่งขับเคลื่อนงานโครงสร้างพื้นฐานออกมามากขึ้น และ SEAFCO จะเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐบาลด้วย
ล่าสุดอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานใหม่มูลค่า 19,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งงานของภาครัฐบาลและเอกชน อาทิ งานสนามบิน ทางด่วน รถไฟใต้ดิน ทางยกระดับ เป็นต้น พร้อมกันนี้บริษัทยังรอประมูลงานใหม่ๆที่จะทยอยออกมาต่อเนื่องด้วย คาดมีโอกาสเข้าประมูลงานเพิ่มเติมอีกราว 1,500-2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ที่ 150 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่และทดแทนจักรเดิมที่ชำรุด ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรงนั้น คาดจะช่วยหนุนให้บริษัทสามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 3.5-7% ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาด “เชื้อไวรัสโควิด-19” เบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน แต่บริษัทได้ป้องกันโดยซื้อหน้ากาก อุปกรณ์ทำความสะอาดให้กับพนักงงาน และยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ปักธงรายได้นิวไฮไม่หยุด
โดยทั้งปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮแตะที่ 3.3 พันล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อน เพราะบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ทั้งหมด 2.56 พันล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นงานเสาเข็มและงานฐานราก
โครงการภาครัฐ 45% และงานภาคเอกชน 55% โดยเป็นงานในประเทศสัดส่วน 96% และงานต่างประเทศในเมียนมา 4%
www.mitihoon.com
