ORI ผนึกยักษ์ใหญ่ก่อสร้างและอสังหาฯ เกาหลี “GS E&C” ร่วมทุนพัฒนาคอนโด 2 โครงการ มูลค่ากว่า 4.2 พันลบ.

111

มิติหุ้น – นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท จีเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น (GS E&C)​บริษัทยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกของเกาหลีใต้ ซึ่งมีผลงานด้านการก่อสร้างอยู่ทั่วโลก เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกัน โดยบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ GS E&C ถือหุ้นในสัดส่วน 49%

ทั้งนี้ GS E&C เป็นบริษัทในเครือ GS Group กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำในหลากหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ อาทิ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจและอุตสาหกรรมก่อสร้าง สำหรับ GS E&C ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2512 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ในปี 2524 พัฒนาโครงการหลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งโครงการโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้า โรงงาน อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัยแบรนด์ Xi ซึ่งย่อมาจาก Extra Intelligent มีวิสัยทัศน์ในการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการก่อสร้างของโลก ปัจจุบัน มีสำนักงานสาขาอยู่ในเมืองใหญ่ถึง 24 แห่งทั่วโลก ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร ENR นิตยสารชั้นนำด้านการก่อสร้างของสหรัฐให้เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างระดับท็อปอันดับที่36 ของโลก

“การร่วมทุนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของกลยุทธ์ Open Platform ที่เราเปิดกว้างรับพันธมิตรจากทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกมาร่วมปลั๊กอินกับเราในการสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ สร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่าเพื่อผู้บริโภค เราเชื่อมั่นว่า เราและ GS E&C จะสามารถนำประสบการณ์และโนว์ฮาวที่ต่างฝ่ายต่างสั่งสมกันมาอย่างยาวนาน มาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในโครงการที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การร่วมทุนในระยะแรกนี้ จะเริ่มต้นจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมกัน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 111 (The Origin Ladprao 111) โครงการไฮไรส์ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีบางกะปิ มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท เพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ และ 2.โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 4 (KnightsBridge Space Rama 4) มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท เพื่อเจาะตลาดระดับลักชัวรี่ ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มเปิดขายทั้ง 2 โครงการพร้อมกัน โดยจะมีข้อมูลโครงการแจ้งต่อผู้สนใจในช่วงครึ่งปีหลัง

www.mitihoon.com