ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขาย Super Savings Fund (ชนิดเพื่อการออมพิเศษ) พร้อมกัน 3 กองทุน ในระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2563 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท
สำหรับกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เรียกกันว่า Super Savings Fund (SSF) กำหนดให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน SSF ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่เสียภาษีแต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
อย่างไรก็ดี ภาครัฐได้มีประกาศให้นักลงทุนสามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมใน SSF พิเศษได้นอกเหนือจากสิทธิลดหย่อนเดิมอีกไม่เกิน 200,000 บาท และต้องลงทุนเพื่อรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 นี้เท่านั้น โดยกองทุน SSF พิเศษ จะแตกต่างจาก SSF ปกติ คือ กองทุนจะต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV ตามที่รัฐกำหนด
ดังนั้น บลจ.ไทยพาณิชย์ จึงได้เปิดเสนอขาย Super Savings Fund (ชนิดเพื่อการออมพิเศษ) พร้อมกัน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70/30 เพื่อการออม – SCB Mixed 70/30 Super Saving Fund (SCB70-SSFX), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยแอคทีฟ เพื่อการออม – SCB Thai Equity Active Super Saving Fund (SCBEQ-SSFX) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET เพื่อการออม – SCB SET Index Super Saving Fund (SCBSET-SSFX) มูลค่าโครงการละ 5,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70/30 เพื่อการออม (SCB70-SSFX) เป็นกองทุนผสมที่กระจายการลงทุนในตราสารทุน REITs กองทุนอสังหาริมทรัพย์/โครงสร้างพื้นฐาน ประมาณ 65% -70% และลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝาก ประมาณ 30% เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพและลดความผันผวนของพอร์ต รวมถึงโอกาสได้รับรายได้ระหว่างทาง เน้นการบริหารเชิงรุก มุ่งสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดด้วยการวิเคราะห์ทั้งข้อมูลเชิงลึกและเชิงปริมาณ ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยแอคทีฟ เพื่อการออม (SCBEQ-SSFX) เป็นกองทุนตราสารทุน ลงทุนในหุ้นไทยเฉลี่ยมากกว่า 80% เน้นการบริหารเชิงรุก ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ดีที่สุดไม่กี่ตัว เพื่อหาผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้ชนะตลาด (High Conviction)
โดยจัดการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงในแต่ละสภาวะตลาด พร้อมทั้งผสมผสานหลากหลายโมเดลการลงทุนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เช่น Fundamental, Thematic, Momentum, Sentiment และ Machine Learning เป็นต้น ซึ่งทั้งสองกองทุนจะใช้ตราสารอนุพันธ์สร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยง ทั้งยังมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนาน มีกองทุนภายใต้การบริหารที่ได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว และ 4 ดาวเป็นผู้บริหารกองทุน
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET เพื่อการออม (SCBSET-SSFX) เป็นกองทุนรวมดัชนี เน้นลงทุนในตราสารทุน ไม่ต่ำกว่า 80% มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Optimized Portfolio เพื่อให้ได้พอร์ตที่มีสภาพคล่องสูง และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับดัชนี SET มากที่สุด กองทุนจะคัดเลือกหุ้นที่สามารถสะท้อนผลการดำเนินงานของดัชนี SET ได้อย่างใกล้เคียง
โดยเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักอย่างมีนัยยะในดัชนี SET และมีมูลค่าการซื้อขายรายวัน ซึ่งสะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอ และจะคัดเลือกหุ้นและปรับสัดส่วนการลงทุนให้มี Tracking Error ต่ำ โดยคำนึงถึงต้นทุนธุรกรรม (Transaction Cost) และกรอบการลงทุน โดยจะเลือกลงทุนในหุ้นประมาณ 115 –130 ตัว ทั้งนี้ กองทุนจะทำการติดตามและปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนโดยพิจารณาจากค่า Tracking Error เป็นหลัก พร้อมทั้งมีการอัพเดท Investment Universe สม่ำเสมอ ซึ่ง บลจ.ไทยพาณิชย์ นับว่าเป็นบลจ.เดียวในประเทศไทยที่บริหารจัดการกองทุนที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนตามดัชนี SET
นอกจากนั้น ทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ ได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนกองทุน SFF พิเศษ ผ่าน SCB EASY App รับเลยหน่วยลงทุนกองทุนทองคำสูงสุดถึง 400 บาท ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย
www.mitihoon.com