มิติหุ้น- HUMAN ท้าชนโควิด-19 ป้อนออเดอร์ฮาร์ดแวร์ตรวจเช็คอุณภูมิพนักงานเข้าออกองค์กรทั่วไทย เบื้องต้นรับทรัพย์กว่า 10 ล้าน แถมเดินหน้าดีล M&A ต่อยอดธุรกิจหลัก คาดสรุปไตรมาส 2 นี้ ด้านผลงานปีนี้โตฉลุย 20-25% ไม่หวั่นลูกค้าขอดีสเคาท์ราคา ด้านโบรกเจาะกำไรแข็งแกร่ง เคาะเป้า 10.90 บาท
ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นายสุนทร เด่นธรรม รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) HUMAN เปิดเผยว่า บริษัทจะสรุปแผนเข้าซื้อกิจการ ( เทคโอเวอร์ ) และร่วมทุนกับพันธมิตรในช่วงไตรมาส 2/2563 เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก โดยคาดว่าดีล M&A จะเสริมรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้รวม
นอกจากนี้บริษัทเตรียมปรับนโยบายการใช้เงินลงทุนจากเงินระดมทุนจำนวน 300 ล้านบาท โดยจากเดิมจะนำเงินดังกล่าวเป็นทุนหมุนเวียนภายในบริษัท โดยในเดือนเมษายน 2563 จะขอมติประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อนำจำนวนเงินดังกล่าวไปลงทุนสร้างผลประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัท หรือดีล M&A ดังกล่าว
“ดีล M&A ครั้งนี้อาจสรุปได้เร็วและคาดว่าเป็นดีลในประเทศ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ คาดว่าราคาที่จะลงทุนจะเป็นราคาที่คุ้มค่ากับเงินลงทุนของบริษัท” นายสุนทรกล่าว
เปิดแผนลุยโควิด-19
อย่างไรก็ดีในภาวะโรคระบาดไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 บริษัทลูกของ HUMAN ซึ่งได้แก่ บริษัท ไทเกอร์ ซอฟท์ (1998)” ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทรัพยากรบุคคลและเงินเดือนซึ่งมีลูกค้าที่เป็นบริษัท SMEs ประมาณ 2,500 บริษัทจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากล่าสุด ได้มีออเดอร์จากลูกค้าขนาดใหญ่ ทั้ง ธุรกิจโรงพยาบาล และหน่วยงานต่างๆ ได้สั่งซื้อฮาร์ดแวร์ตรวจอุณภูมิพนักงานเข้าออกที่เป็นมาตรฐาน จำนวนกว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่า ฮาร์ดแวร์ดังกล่าวจะสร้างยอดขายให้กับบริษัทในอนาคตได้เป็นจำนวนมาก เพราะคาดว่าระบบฮาร์ดแวร์ตัวดังกล่าวจะได้รับความนิยมจากลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
สำหรับผลประกอบการปี 2563 ยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ที่ระดับ 20-25% ตามเป้าหมาย ซึ่งแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งทำให้ลูกค้ากลุ่มโรงแรมได้เจรจาลดค่าใช้จ่ายลงชั่วคราวประมาณ 5-10% ก็ตาม โดยเบื้องต้นคาดว่าลูกค้าใหม่จะชดเชยลูกค้าเก่าได้ นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้ประจำถึง 80% ซึ่งจะช่วยชดเชยได้อีกจำนวนมาก
โบรกส่องกำไรปี 63 พีค
ด้าน บล.บัวหลวงคาดผลการดำเนินงานปี 63 ประเมินภาพกำไรไว้ที่ 40% จากทั้งลูกค้าใหม่ที่จะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 2/63 เป็นต้นไป รวมถึงยังมีดีลที่คุยอยู่กับอีกหลายบริษัท และรายได้จากฝั่งของบริการใหม่ที่เข้ามาเสริมอีก 6 บริการหลัก อีกทั้งจะเริ่มเห็น Synergy ที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่ม BTS ทั้งในเรื่องของบัตร Rabbit และ Rabbit Finance รวมถึงการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ เช่น จีน ออสเตรเลีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.90 บาท
www.mitihoon.com