ESTAR โอนควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42 รับรายได้

108

 

มิติหุุ้น-ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า โครงการ “ควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42” คอนโดมิเนียมหรู LOW RISE โครงการแรกของบริษัทฯ บนทำเลศักยภาพย่านทองหล่อ-เอกมัย มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างทยอยโอนซึ่งจะทำให้บริษัทมีการรับรู้รายได้เข้ามาภายในปีนี้ และจะเปิดให้ชมอาคารจริงได้ในประมาณเดือนเม.ย. 2563 โดยโครงการดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 304 ยูนิต ประกอบด้วยห้อง 2 ขนาด ได้แก่ 1ห้องนอน พื้นที่ ใช้สอย 29-40 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 46-55 ตร.ม. ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 42 เดินทางสะดวก เข้าออกได้ทั้งฝั่งถนนสุขุมวิทและพระราม 4 อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัยและศูนย์การค้าเกตเวย์เพียง 550 เมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 4.29 ล้านบาท ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก A49 จำกัด บริษัทออกแบบชั้นนำของประเทศ และบริหารงานขายโดย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เน้นจับกลุ่มลูกค้า Gen X และ Y ที่มีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป

นอกจากนั้นแล้ว บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการควินทารา อาเท่ สุขุมวิท 52 คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 154 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดแบบ Fully Furnished ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 28.00-51 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 56.00 ตร.ม. มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท และโครงการเอสทารา เฮเว่น พัฒนาการ 20 เป็นบ้านแฝด 3 ชั้น และทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พื้นที่โครงการ 21 ไร่ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 200-220 ตร.ม.ต่อหลัง จำนวน 152 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท  โดยทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการขายมียอดขาย 80% และ 50% ของในส่วนที่เปิดขายตามลำดับ

ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ผู้ประกอบการต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องแข่งขันกับจำนวนหน่วยที่คงค้างอยู่ในตลาดและบรรยากาศความกังวลของลูกค้าโดยทั่วไป แต่สำหรับผู้บริโภคและนักลงทุนแล้วแล้วถือเป็นโอกาสทองที่จะสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในหลากหลายทำเลที่มีศักยภาพได้ในราคาไม่แพง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหากสถานการณ์  ไวรัส โควิด-19 คลี่คลาย บรรยากาศความตระหนกลดลง  ตลาดอสังหาฯในประเทศไทยน่าจะกลับมาฟื้นตัวเติบโตตามเรียลดีมานด์อีกครั้ง ผู้คนจะกลับมากล้าซื้อและจับจ่ายสินค้า และสำหรับตลาดชาวต่างชาติมองว่าอสังหาฯไทยยังมีความน่าลงทุนอยู่เพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว ยังมีราคาไม่แพงเหมาะสำหรับซื้อลงทุนปล่อยเช่าหรือเป็นบ้านหลังที่สองอีกด้วย ดร.ต่อศักดิ์กล่าว

www.mitihoon.com