มิติหุ้น-บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) โดย นายชุติเดช ชยุติ Chief Financial Officer เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส1/63 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,641.14 ลบ. EPS ที่ 0.64 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 3.25 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1,589.42 ลบ. เพิ่มขึ้นจากเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS9) ซึ่งรายได้ดอกเบี้ยรวม(รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน)ไตรมาสหนึ่งปี 2563 ขยายตัว 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นหรือมีจำนวนเท่ากับ 82,102 ลบ. โดยแบ่งเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตรวมเท่ากับ 52,137 ลบ. และลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวมเป็น 29,965 ลบ.
นอกจากนี้ยังพบว่าในรอบ 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ 63) ปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทขยายตัว 10% สูงกว่าอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 6.2% หากแต่ด้วยผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทในเดือนมี.ค.ลดลง ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรสำหรับไตรมาส1/63 ของบริษัทจึงมีอัตราขยายตัวเพียง 2.2% หรือมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50,167 ล้านบาท
ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ไตรมาส1/63 อยู่ที่ 15.64% จากค่าเฉลี่ยดอกเบี้ยรับที่เท่ากับ 18.52% และมีต้นทุน เงินทุนที่ 2.88% รายได้ดอกเบี้ย (รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ในไตรมาส1/63ตามมาตรฐาน TFRS9 อยู่ที่ 3,615 ลบ. ส่วน NPL รวมของบริษัทภายใต้ TFRS9 อยู่ที่ 4.01% (ถ้าเป็นภายใต้มาตรฐานการรายงานทางการเงินเดิมเท่ากับ 1.21%) ซึ่งการตัดหนี้สูญที่เข้มข้นกว่ามาตรฐานเดิม กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงการตัดหนี้สูญและลูกหนี้จัดชั้น NPL จะแตกต่างไปจากเดิม โดยการ ตัดหนี้สูญจะทำได้ช้าลงภายใต้มาตรฐานบัญชี TFRS9 หนี้สูญจะตัดได้ ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่า ไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ได้อีกต่อไป
www.mitihoon.com
