สัปดาห์นี้ทิศทางตลาดยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัว ปัจจัยสำคัญที่จะหนุนตลาดคือการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ ในกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง NETFLIX และ INTEL ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงครึ่งปีแรก หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มธนาคารมีกำไรปรับตัวลงรวมถึงกลุ่มสินค้าโภคโภคจำเป็นที่ผลกำไรลดลง
สำหรับสัปดาห์นี้มีประเด็นที่น่าคือ ราคาน้ำมันที่ผันผวนหลังสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเดือนพ.ค. ปรับตัวลงติดลบถึง -37 เหรียญฯ เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าราคาน้ำมันในเวลานี้เกิดภาวะล้นตลาดอย่างมาก และน่าจะเป็นผลลบต่อราคาน้ำมันทั้ง Brent และ WTIไปอีกสักระยะ จนกว่าสถานการณ์ของ COVID-19 จะดีขึ้นและการดำเนินของเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมา เพราะตอนนี้กำลังซื้อของจีนประเทศเดียวยังไม่พอที่จะทำให้ราคาน้ำมันหยุดปรับตัวลง ต้องจับตาดูว่าสถานการณ์ของยุโรปในปลายเดือนนี้จะดีขึ้นเพียงใด
ทั้งนี้หลายประเทศเริ่มพิจารณาในการเปิดเมืองแล้วรวมถึงประเทศไทยที่เริ่มผ่อนคลายให้เปิดดำเนินการได้ในบางธุรกิจ ซึ่งถือสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงิน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ใช้นโยบายการเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจต่างๆ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประเมินว่ารัฐบาลรวมถึงธนาคารกลางทั่วโลก ใช้เงินไปแล้ว 14 ล้านล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็น 16% ของจีดีพี ทั้งโลก เพื่อรับมือกับเรื่อง COVID-19
สำหรับสินทรัพย์และการลงทุน KTBST SEC ยังคงคำแนะนำลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภท REIT โดยเน้นไปกระจายลงทุนในอสังหาฯต่างประเทศมากกว่าในประเทศไทย เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆในรูปแบบของการชะลอการจ่ายค่าเช่าและการให้สินเชื่อประเภท Soft loan อีกทั้งราคาของ REIT ณ ปัจจุบันค่อนข้างสะท้อนการลดลงของค่าเช่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังให้น้ำหนักลงทุนในทองคำ เนื่องจากภาวะดอกเบี้ยต่ำ ตลอดจนการเติบโตของเงินเฟ้อและการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง KTBST SEC โดยมองแนวรับบริเวณ 1,580 – 1,600 เหรียญฯ เป็นระดับที่พิจารณาเข้าซื้อได้ ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้” https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php
โดยชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC)
www.mitihoon.com