ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส CIO บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นญี่ปุ่นโตขึ้นประมาณร้อยละ 20 เทียบกับตลาดโลกที่ประมาณร้อยละ 24 สะท้อนด้วยดัชนี MSCI All Country Index ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากแรงกดดันตลาดญี่ปุ่นเรื่องการตั้งกำแพงภาษีสินค้าของสหรัฐฯ ต่อประเทศจีนในเฟส 1
มาตรการหนุนญี่ปุ่นฟื้นตัวจากโควิด
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ความไม่แน่นอนจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนที่เป็นคู่ค้าสำคัญส่งผลกระทบกับการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น Semi-Conductor ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของญี่ปุ่นไปสู่จีน นอกจากนี้ จีนยังเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติหลักที่เข้ามาเที่ยวในญี่ปุ่น (คิดเป็นสัดส่วน 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เข้ามาในปี 2019)
ในระยะถัดไป ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงในระยะสั้นถึงกลางจากการระบาดของโรค COVID-19 ที่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้อนุมัติ Economic Stimulus Package และออกนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางนโยบายการคลัง ได้แก่ มาตรการป้องกัน COVID-19 มาตรการเยียวยาแรงงาน มาตรการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ มาตรการฟื้นฟู Supply Chain และกองทุนสำรองสำหรับ COVID-19 อีกด้วยซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นตัวช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นได้
บริหารกองทุนหุ้นญี่ปุ่นโตเร่งปันผล
อย่างไรก็ดี ในมุมของ SCBAM บริษัทได้เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBNK225D) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่าง 1 ต.ค.2562 – 31 มี.ค.2563 และกำไรสะสม โดยกองทุนนี้เป็นกองทุน 4 ดาวมอร์นิ่งสตาร์ ประเภท Thailand Fund Japan Equity (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.2563) กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 22 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา ในอัตรา 0.1384 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 11 รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 3.3482 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 11 ต.ค.2556)
ทั้งนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (ชนิดจ่ายเงินปันผล) มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน บริหารงานโดย Nomura Asset Management Co.,Ltd. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โดยลงทุนในสกุลเงินเยน (JPY) มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนทั้งหมดที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 และตราสารทุนที่กำลังจะมาเป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 ในสัดส่วนการลงทุนเดียวกับจำนวนหุ้นในดัชนีนิคเคอิ 225 (Nikkei 225 Index หรือ Nikkei Stock Average) มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศ
COVID-19 ทำให้นักลงทุนกังวล ในส่วนของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ทางรัฐบาลได้อนุมัติ Economic Stimulus Package และออกนโยบายการกระตุ้นต่อเนื่อง น่าเป็นตัวช่วยฟื้นฟูได้ แต่ในภาพของตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวน
www.mitihoon.com