PERM จ่อปิดดีลโปรเจ็กต์ยักษ์ บิ๊กวาดฝันงบพลิกบวก (27/04/63)

357

มิติหุ้น-PERM สัญญาณดีรับราคาเหล็กฟื้นรับอานิสงส์ค่าเงินแข็งค่า พร้อมสรุปดีลสร้างสาขาให้กับ “โกลบอลเฮ้าส์” 7 แห่งเพิ่ม หนุนแบ็กล็อกพุ่งกว่าเท่าตัว “ผู้บริหาร” วาดฝันปีนี้ผลงานพลิกบวก

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เพิ่มสินสตีลเวิคส์ (PERM) ผู้ดำเนินธุรกิจแปรรูปและจำหน่ายเหล็กรีดร้อนและรีดเย็น เหล็กโครงสร้างเพดานและผนัง แผ่นหลังคาและผนังเหล็กเคลือบสี โดยนายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 3,750.51 ล้านบาท และคาดหวังว่าปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรให้ได้จากที่ขาดทุนในปีก่อนที่ 148.55 ล้านบาทพร้อมคาดผลงานไตรมาส1/63 ยังเติบโตตามเป้าหมายจากปีช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56.21 ล้านบาท แต่ไตรมาส2/63 ยังต้องประเมินสถานการณ์จากผลกระทบโควิด-19ประกอบด้วย

จ่อปิดดีลงานกว่าเท่าตัว
โดยปีนี้บริษัทในส่วนงานภายใต้บริษัท ซันเทคสตีลเวิคส์ จำกัด ได้งานเพิ่มทั้งงานสร้างสาขา 7-ELEVEN จำนวน 40 สาขา และงานของกองทัพอากาศและกองทัพบก ซึ่งเป็นงานสร้างเหล็ก PU และเตรียมปิดดีลงานสร้างสาขาของ “โกลบอลเฮ้าส์” ซึ่งปีนี้จะขยาย 7 สาขา(ใช้ผลิตภัณฑ์เหล็ก PU เนื้อที่ 75,000 ตารางเมตร) คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคมนี้  จะช่วยดันงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จากปัจจุบัน อยู่ที่ 50,000 ตารางเมตร มูลค่าราว 100 ล้านบาทซึ่งล่าสุดบริษัทยังเดินหน้าธุรกิจต่อเนื่องเพื่อส่งมอบงานให้ลูกค้าตามออเดอร์ที่เข้ามาแม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19ระบาดก็ตาม

รับผลดีราคาเหล็กเด้ง
นอกจากนี้จากสถานการณ์ราคาเหล็กที่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขยับขึ้นมา 20 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันมาอยู่ที่ 520 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันประกอบกับทิศทางค่าเงินที่ปรับขึ้นบริษัทก็คาดหวังว่าปีนี้จะสามารถบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนได้เช่นในปีที่ผ่านมา

ปีหน้าธุรกิจใหม่หนุนกำไร
อย่างไรก็ตามในปี 64 บริษัทเตรียมรันธุรกิจ “เอ็มพาวเวอร์สตีล” ธุรกิจโรงงานผู้ผลิตเหล็ก และธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมอย่างการสร้างออฟฟิศ 3 ชั้น เสร็จภายใน 3 เดือน ทดแทนแรงงงานคนที่ขาดแคลน เป็นต้น ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีเน็ตมาร์จิ้นสูงราว 10-15 % ซึ่งสูงกว่าธุรกิจเดิมที่มีเน็ตมาร์จิ้นราว 8-10 % ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กในกลุ่มพรีเมียมซึ่งจะช่วยลดผลกระทบในธุรกิจหลักเทรดดิ้งของบริษัทได้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งราว 65 % และ 35 % จากธุรกิจภายใต้ “บ.ซันเทคสตีลเวิคส์” และที่เหลือเป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์เหล็กท่อ เป็นต้น

www.mitihoon.com