เอ็มเอฟซีมั่นใจกองทุนตราสารหนี้น่าลงทุน ให้ผลตอบแทนระยะสั้นดีกว่าเงินฝาก ส่งกองทุนใหม่ลงตลาด

50

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานคณะกรรมการบริหาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ​บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เหมาะสมที่จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ธนาคารกลางหลักทั่วโลกและไทยปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินตามธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมทั้งออกมาตรการซื้อตราสารหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด ส่งผลให้เงินฝากในประเทศไทยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสลงทุนในตราสารหนี้เอกชนคุณภาพสูงและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล

นอกจากนี้ การลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งและมีอันดับความน่าเชื่ออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) อาทิเช่น ธนาคารในประเทศจีน และประเทศกาตาร์ ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากในประเทศ

ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 6 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (MKAI6S6)เสนอขายวันนี้ 29 เมษายน 2563 โดยเป็นกองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน เงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุน 500,000 บาท ประมาณการผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.30 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) เมื่อครบอายุกองทุน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงินหรือกองทุนเปิด MM-GOV

กองทุนเปิด MKAI6S6 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และ/หรือเอกชน เงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ เงินฝาก และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully hedge) ทั้งนี้ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 6 เดือนได้ และกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออก ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมาก

ประมาณการผลตอบแทนรวมที่ได้รับจากการลงทุน 1.60% ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่าย 0.30% ต่อปี และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่าย 1.30% ต่อปี หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาด บริษัทจัดการอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว

กองทุนเปิด MKAI6S6 เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก ยอมรับผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่าหุ้นได้ และสามารถลงทุนได้นานกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 500,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)

www.mitihoon.com