PTTEP แจ้งไตรมาส 1 กำไรสุทธิ 275 ล้านดอลลาร์ สรอ.

110

 

 

มิติหุ้น- ปตท.สผ. เผยผลประกอบการไตรมาส ปี 2563 มีกำไรสุทธิ (Net Income) 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ดอลลาร์ สรอ.) (เทียบเท่า 8,612 ล้านบาท) พร้อมปรับแผนการลงทุนสอดรับสถานการณ์ที่ท้าทายจากราคาน้ำมันตกต่ำและการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อรักษาความแข็งแกร่งในระยะยาว

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่าในไตรมาส ปี 2563 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 1,771 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 55,335ล้านบาท) ลดลงประมาณร้อยละ เมื่อเทียบกับ 1,841 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 55,707 ล้านบาท) ในไตรมาส 4 ปี 2562 โดยหลักมาจากปริมาณการขายเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 363,411 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเทียบกับ 395,028 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการเรียกรับก๊าซธรรมชาติจากโครงการในอ่าวไทยจากผู้ซื้อที่ลดลง  นอกจากนี้ ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในไตรมาสนี้ ลดลงมาอยู่ที่ 44.81 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเทียบกับ 48.28 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในไตรมาสก่อน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ดี ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรจากอนุพันธ์ทางการเงิน 222 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่บริษัทได้เข้าทำสัญญาล่วงหน้า ในขณะที่ สามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วยได้ที่ระดับ 31 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ทั้งนี้ บริษัทมีรายจ่ายทางภาษีเงินได้จากผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 225 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ผลประกอบการของ ปตท.สผ. ในไตรมาสที่ นี้ มีกำไรสุทธิ 275 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 8,612 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับ 384 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 11,620 ล้านบาท) ในไตรมาส ปีที่ผ่านมา โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 981 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 38,093 ล้านบาท) และมีระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ร้อยละ 72

 

เตรียมปรับแผนการลงทุนรับมือกับสถานการณ์

นายพงศธร กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำ ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก ปตท.สผ. จึงได้ปรับลดการคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมในปี 2563 เป็น 362,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ลดลงประมาณร้อยละ 7 จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 391,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน รวมถึงปรับลดรายจ่ายการลงทุนของปี 2563 ประมาณร้อยละ 15-20 จากเดิมที่ตั้งไว้ 4,613 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 143,012 ล้านบาทโดยได้พิจารณาตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนและเลื่อนแผนการเจาะสำรวจในบางโครงการออกไป แต่จะยังคงรายจ่ายสำหรับรักษาระดับการผลิตตามสัญญาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ รวมถึงรายจ่ายเพื่อพัฒนาโครงการที่พร้อมผลิตใน 3-4 ปีข้างหน้า อาทิ โครงการโมซัมบิก แอเรีย และการเจาะหลุมสำรวจเพิ่มเติมในแหล่งก๊าซ ลัง เลอบาห์ ในแปลงเอสเค 410บี ประเทศมาเลเซีย

 “การดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตฯ ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทาย ความสำเร็จในการปรับลดต้นทุนในอดีตเมื่อครั้งบริษัทเผชิญวิกฤตราคาน้ำมันตกต่ำในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว ทำให้ต้นทุนปัจจุบันของบริษัทอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบเคียงกับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน อย่างไรก็ตามวิกฤตครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของราคาน้ำมัน แต่เป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง การมุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทคงไม่ใช่แค่เพียงการปรับลดต้นทุน แต่จะต้องมุ่งเน้นการปฏิรูประบบและพฤติกรรมการทำงานขององค์กร เพื่อให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนให้ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสะท้อนต่อโครงสร้างต้นทุนของบริษัทในอนาคตที่จะมีความยืดหยุ่น ให้รองรับได้ทุกสถานการณ์” นายพงศธร กล่าว

ทั้งนี้ ปตท.สผมีผลิตภัณฑ์หลักร้อยละ 70 เป็นก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มีการกำหนดปริมาณรับซื้อขั้นต่ำไว้แล้ว และกำหนดราคาขายในหลายโครงการกับคู่สัญญาไว้แล้ว โดยโครงสร้างราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท.สผ.ผูกกับราคาน้ำมันส่วนหนึ่งและย้อนหลังประมาณ 6-24 เดือน ส่วนของน้ำมันดิบซึ่งมีปริมาณการขายประมาณร้อยละ 30 ของปริมาณการขายทั้งหมด อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งบริษัทได้มีการทำสัญญาประกันความเสี่ยงด้านราคาในปีนี้ไว้แล้วบางส่วน

www.mitihoon.com