มิติหุ้น-บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) โดยนางณิชชา จิรเมธธนกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส1/63 ขาดทุนสุทธิ 8.904.90 ลบ. ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 152.92 ลบ. ขณะที่รายได้จากการขายสุทธิลดลง 10,657 ลบ. หรือร้อยละ 20 เนื่องจากราคาขายลดลงร้อยละ 14 และปริมาณลดลงร้อยละ 6 โดยโรงกลั่นน้ำมันใช้อัตราการกลั่นอยู่ที่ 188,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงร้อยละ 6 Market GIM ลดลง 1,293 ลบ. หรือร้อยละ 26 (ลดลง 1.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)
เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ปรับตัว ลดลง จากผลกระทบต่อเนื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงผลกระทบจาก COVID-19 โดยบริษัทฯ มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 6,811 ลบ.กำไรลดลง 7,531 ลบ. เมื่อเทียบกับกำไร 720 ลบ.ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ Accounting GIM ลดลง 8,824 ลบ. และ EBITDA ลดลง8,791 ลบ.ขณะที่ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น 211 ลบ. หรือ 10 % จากโครงการปรับปรุงและขยายงานที่แล้วเสร็จในปี 62 เช่น โครงการ Catalyst Cooler เป็นต้น
บริษัทฯ บันทึกขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธุ์ ทางการเงิน จำนวน 558 ลบ. ในขณะที่มีกำไร 86 ลบ.ในไตรมาส 1/62 และบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 500 ลบ. เทียบกับไตรมาส 1/62 มีกำไร 127 ลบ. จากค่าเงินบาทอ่อนค่า บริษัทฯ มีเครดิตภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 2,237 ลบ. จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 มีผลขาดทุนสุทธิ 8,905 ลบ.เทียบ กับไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 153 ลบ.
ด้านบทวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ระบุว่าIRPC ขาดทุนมากกว่าตลาดคาด Market GRM ที่อ่อนแอ, ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน, และ Hedging & Derivatives ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/63 Market GIM น่าจะดีขึ้นทั้งธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมี แต่ถูกลดทอนด้วยปริมาณขายที่ลดลง แต่ยังคาดผลประกอบการทั้งปี 63 ยังขาดทุน ซึ่งอาจกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล จึงยังแนะนำเพียง “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 2.95 บ./หุ้น
www.mitihoon.com
