หาหุ้นที่มีประเด็นเฉพาะตัว

220

          ดัชนี SET index ล่าสุดยังคงแกว่งตัวในกรอบที่ประเมินไว้คือไม่เกิน 1300 จุด และไม่ต่ำกว่าแนวรับ 1250 จุด เนื่องจากแม้จะมีข่าวดีจากการที่หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ (สะท้อนว่าภาครัฐฯ ประเมินว่าเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง) แต่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมามากตามความคาดหวังเชิงบวก และแรงซื้อของนักลงทุนที่มองว่า Valuation หุ้นไทยก่อนหน้านี้ไม่แพง และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงระยะสั้น (ไม่เกินปี) ทำให้ Valuation ขณะนี้ของดัชนี SET index เริ่มไม่ถูก

โดยเราประเมิน ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุน (Implied equity risk premium) ใน SET index ขณะนี้วกกลับเข้าสู่ระดับค่าเฉลี่ยบริเวณ 4% จากเดิมที่อยู่กรอบบนบริเวณ 5% ตอนที่ SET index ลงไปบริเวณ ±1000 จุด แสดงให้เห็นว่า Valuation ของ SET index ขณะนี้นั้น “ไม่ถูก” แต่ก็ไม่ได้แพงเกินไป … อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Quantamental บทวิเคราะห์เชิงปริมาณของฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ (ประเทศไทย) วันที่ 5 พ.ค.

เมื่อ SET index ระดับปัจจุบัน มี Upside ไม่มาก แต่ยังพอรับได้สำหรับการลงทุน ทำให้ดัชนี SET index มีความเป็นไปได้ที่จะแกว่งตัว Sideway และพร้อมที่จะพักฐานหากหลุดแนวรับสำคัญ (เราประเมินไว้ที่ 1250 จุด) ดังนั้นกลยุทธ์สำหรับสถานการณ์นี้เราแนะนำให้ i) มีวินัยต่อการลงทุนให้มากขึ้น กำหนดจุด Stop loss หรือ จุด Trailing stop ล๊อกกำไรให้ชัดเจน, ii) สำหรับการเก็งกำไรสั้น แนะนำหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน (TOP, ESSO) หุ้นกลุ่มขนส่ง (BTS, BEM) และค้าปลีก (CPALL, CRC) เป็นต้น, และ iii) แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานอีกครั้งหากดัชนี SET index มีการพักฐาน เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO, RATCH, BCPG), หุ้น Medium – small cap (JMART, EP), และหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF, TFG (ธีมหุ้นปัจจัย 4) เป็นต้น

www.mitihoon.com