เปิดตัวแอปพลิเคชันด้านการศึกษา “StartDee”โรงเรียนออนไลน์แห่งแรก ที่ใช้เทคโนโลยีปลดล็อคข้อจำกัดการศึกษาไทย

383

มิติหุ้น – หากพูดถึงระบบการศึกษาไทย คงจะปฏิเสธไม่ได้ถึงความแตกต่าง และความไม่เท่าเทียมในระบบการเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียน เปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างง่ายคือ โรงเรียนที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ มีผลการเรียนที่เทียบเท่ากับโรงเรียนชั้นนำระดับโลก ในขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กกว่า 15,000 แห่ง อาจจะขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน หรือคุณครูที่มีไม่เพียงพอสำหรับทุกระดับชั้น ซึ่งหากเด็กไทยทั่วประเทศกว่า 8 ล้านคน ได้รับการศึกษาที่เหมือนกัน ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนที่รวยที่สุดกับคนที่จนที่สุด จะลดลงได้ถึง 39% (ข้อมูลจาก UNESCO) นี่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้ คุณไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอหนุ่มรุ่นใหม่ บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด เร่งพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการศึกษา StartDeeที่เปรียบเสมือน “Netflix ของการศึกษาไทย” โดยนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ ส่งเสริม และใช้ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด และพร้อมรับมือกับอนาคตการศึกษาไทยหลังโควิด-19 ที่จะพัฒนาสู่ new normal กับพฤติกรรมการเรียนที่เปลี่ยนไป

StartDee เริ่มต้นด้วยภารกิจที่ต้องการปลดล็อกข้อจำกัดการศึกษาไทยแบบเดิม ด้วยการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตผสานเข้ากับการเรียนในโรงเรียน โดยมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อให้เด็กไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่ดี ภายใต้ 3    เสาหลัก ประกอบด้วย 1. มีคุณภาพ (Quality) 2. ราคาไม่สูง (Affordable) 3. เข้าถึงง่าย (Available)

การศึกษาที่ดี เท่ากับ คุณภาพที่ดี เนื้อหาไม่จำกัด ทุกที่ ทุกเวลา (Unlimited content anywhere, anytime) สำหรับทุกระดับชั้น ตั้งแต่  ป.1 – ม.6 ครอบคลุมทุกวิชาหลักในโรงเรียน และทักษะสำหรับอนาคต ผ่านประสบการณ์เรียนรู้รูปแบบใหม่ที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ (Interactive Learning Journey) และมีการพัฒนาเนื้อหาอย่างต่อเนื่องจากความคิดเห็นผู้เรียน (Data-driven content) เพื่อนำไปสู่การสร้างการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) ที่มีรายงานผลการเรียนรายบุคคล เนื้อหาที่ถูกดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการนักเรียนที่แตกต่างกัน ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI

ฉีกรูปแบบการเรียนการสอนแบบเดิมๆ เมื่อกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เจนเนอเรชันซี (GenZ)เมื่อต้องสื่อสารและออกแบบรูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะกับกลุ่มเจนซี ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ใกล้ชิด และมีความกระตือรือร้นในการใช้เทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมากที่สุด มีพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนหลายชั่วโมงต่อวัน ชอบความท้าทาย และพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงรักในการเชื่อมต่อกับเพื่อนใหม่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ การเรียนรู้จึงจำเป็นต้องสนุก (Gamified Learning) ด้วยเนื้อหาที่มีความบันเทิงแต่มีสาระ (Edutainment) การเรียนที่เปรียบเสมือนการเล่นเกม มีรางวัลให้นักเรียน ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียน และการเรียนรู้ร่วมกัน (Social Learning) ผ่านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ (Community) การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักเรียน กิจกรรมพบปะเพื่อนใหม่ เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสรู้จักกันจากทั่วประเทศ จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ StartDee นำมาใช้แม้ของฟรีไม่มีบนโลก แต่ของดีที่ถูกและเข้าถึงง่ายมีที่ StartDeeราคาที่ไม่สูง (Affordable) เป็นหนึ่งในโจทย์หลักที่ StartDee ให้ความสำคัญ เพราะราคาที่จับต้องได้ จะช่วยเชื่อมโยงให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ ทุกโรงเรียน ทุกฐานะความเป็นอยู่ สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด เพียงชำระค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปีครั้งเดียว ก็สามารถเข้าถึงบทเรียนได้ครบทุกวิชาอย่างไม่จำกัด ในราคาเริ่มต้นเพียง 200 – 300 บาทต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าทางเลือกในการเรียนแบบอื่นถึง 10-15 เท่า และเพื่อเป็นการลดช่องว่างในการขาดหายไปจากการเรียนรู้ในช่วงที่โรงเรียนถูกเลื่อนเปิดเทอม StartDee จึงเปิดให้เด็กไทยเรียนฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2563 พร้อมการเข้าถึงการเรียนการสอนได้อย่างง่าย (Available) ผ่านสมาร์ทโฟนทุกรุ่น รองรับทุกระบบ ทั้ง iOS และ Android ประหยัดข้อมูลกว่าเว็บดูวิดีโอทั่วไป ถึง 2 เท่า พร้อมฟรี! อินเทอร์เน็ต และซิมการ์ด จาก เอไอเอส

เจาะลึกฟีเจอร์หลัก แอปฟลิเคชัน StartDee ที่เปรียบเสมือนห้องเรียนต่างๆ ในโรงเรียนออนไลน์ รองรับการใช้งานกับตามความต้องการที่หลากหลายของเด็กนักเรียนไทย ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมนี้

  1. StartDee Room ( .1 – .6 ) ห้องเรียนที่อัดแน่นไปด้วยหลายร้อยบทเรียนใน 7 วิชาหลักของนักเรียนระดับชั้นมัธยม ทั้งในรูปแบบวิดีโอที่ปรับระดับความเร็วในการเรียนได้ แบบฝึกหัดที่วัดความเข้าใจ ชีทสรุปบทเรียน และอื่น ๆ อีกมายมาย ที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ด้วยตัวเองตามความต้องการได้อย่างไม่จำกัด โดยจะมีการเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ ทุกสัปดาห์ ถือเป็นห้องหลักของ แอปพลิเคชัน StartDee เลยทีเดียว
  2. StartDee Daily Class คลาสเรียนประจำวัน ติวเสริมสำหรับนักเรียนระดับชั้น ม.3 และ ม.6 ที่จะมีการสอบระดับชาติในปลายปีการศึกษา โดยมีการนำบทเรียนมาจัดเรียงเป็นตารางเรียนทุกเช้า วันจันทร์ – ศุกร์ เริ่มเวลา 9.30 น. ที่ครอบคลุมเนื้อหาครบทุกวิชาหลัก และคั่นด้วยรายการพักสมองสนุกๆ
  3. StartDee Live Class คลาสเรียนสด ที่เป็นคลาสพิเศษเสริมในบางวัน โดยมีทั้งเนื้อหาวิชาการในหลักสูตรและความรู้หรือทักษะนอกหลักสูตร ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21

นอกจากนี้ StartDee ยังมีแผนการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่เสมือนเป็นห้องแห่งการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น StartDee Room สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 , StartDee Room สำหรับทักษะแห่งอนาคต, Personal Development Room การพัฒนาความรู้ความสามารถรายบุคคล, Game Room ห้องเกม และ Social Room ห้องแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักเรียนด้วยกันทดสอบจากการใช้งานจริง จากเด็กนักเรียนทั่วประเทศ

ทุกสายการเรียน ทุกรูปแบบสังกัดโรงเรียนกว่าจะมาเป็นแอปพลิเคชัน StartDee ที่ออกมาพร้อมให้ดาวน์โหลด ได้ผ่านการคิดค้น พัฒนา และสำรวจจากการทดลองใช้งานจริงจากกลุ่มตัวอย่างเด็กนักเรียนไทยทั่วประเทศ 37 โรงเรียน จากทั้ง 4 ภูมิภาค โดยพบว่าเด็กนักเรียนมีความคิดเห็นหลักออกเป็น 4 ประเด็น คือ 1. แอปพลิเคชัน ออกแบบให้ใช้งานง่าย 2. เนื้อหากระชับ สอนเข้าใจง่าย 3. ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์กับการเรียน 4. ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษากับเด็กทั่วประเทศ โดยมีตัวอย่างความคิดเห็นจากนักเรียนรุ่นที่ 1 ของ แอปพลิเคชัน StartDee ดังเช่น

เป็นแอปการเรียนที่น่าสนใจมากๆ เพราะมีรูปแบบที่ทันสมัยเป็นแอปที่ดึงดูดสายตาค่ะ

(น้องมะนาว, กรุงเทพฯ)

เรียนกับคุณครูที่โรงเรียนผ่านวิดีโอคอล ครูยังสงสัยว่าหนูไปรู้เรื่องบทเรียนมาจากไหน ในระยะเวลา 1 เดือนที่ใช้แอปนี้ (น้องแพร, ขอนแก่น)

ในช่วงแรก ผมก็ไม่คิดว่าในหนึ่งแอปจะทำได้ถึงขนาดนี้ พี่ๆ ทำให้ผมได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะได้ใช้เวลานั้นในการแสวงหาความรู้ (น้องบาส, เชียงราย)

ทำคลิปสอนดีๆ กระชับ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปดูคลิปในยูทูปยาวๆเลยค่ะ” (น้องนิ้ง, พัทลุง)

เสริมแกร่งจากพันธมิตรภาครัฐเอกชน ร่วมขับเคลื่อนอนาคตการศึกษาไทย

StartDee ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในการผนึกกำลังร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตการศึกษาไทย ให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด เริ่มจาก

  • เอไอเอส (AIS) ด้วยการนำจุดแข็งทางด้านโครงข่ายดิจิทัลพื้นฐาน (Digital Infrastructure) มาช่วยสนับสนุนอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ร่วมพัฒนาคอนเทนต์ด้านทักษะดิจิทัล พร้อมแผนความร่วมมือระยะยาวร่วมกันในเชิงนวัตกรรม พร้อมกับร่วมสนับสนุนการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมโดยการแจก “ซี้ดซิม” (ZEED SIM) ที่มากับการใช้อินเทอร์เน็ตโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับน้องๆ ที่ใช้บริการแอปพลิเคชัน StartDee อีกด้วย
  • การีนา (Garena) ดิจิทัลแพลตฟอร์มระดับโลกที่คนออนไลน์ และคอเกมรู้จักกันเป็นอย่างดี ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา ร่วมพัฒนาทักษะรอบด้านให้เยาวชนพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล รวมไปถึงส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • ในส่วนของภาครัฐ StartDee ได้รับความร่วมมือจาก กสศ. (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ในการร่วมทำงานวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์สำหรับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษา รวมทั้งโรงเรียนอีกหลายแห่งทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมทดลองใช้งานและพัฒนาแอปพลิเคชัน
  • www.mitihoon.com