มิติหุ้น-PHOL ประกาศผลงานโค้งแรกของปี 2563 โตสวย กำไรสุทธิอยู่ที่ 30.36 ล้านบาท พุ่งแรง 142.67% มีรายได้อยู่ที่ 273.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย จึงมีความต้องการสูง และแนวโน้มยังมีความต้องการต่อเนื่อง จับตาพฤติกรรมใหม่ผู้บริโภค หนุนสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยเพิ่มโอกาสเติบโตให้บริษัทได้ในระยะยาว
นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 30.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 12.51 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 273.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 239.97 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักมาจากการจัดจำหน่ายสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีความต้องการใช้สินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มลูกค้า
ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 85.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.42 ล้านบาท หรือ 37.56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไรขั้นต้น 62.34 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นอยู่ที่ 31.37% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน 25.98% ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 51.09 ล้านบาท ผันแปรเพิ่มขึ้นตามการขายที่เพิ่มขึ้น
โดยรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ กลุ่มสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ SAFETY มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 78.22% ของรายได้จากการขายและให้บริการทั้งหมด โดยมีรายได้จำนวน 213.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 9.19% ด้านกลุ่มสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 19.48% มีรายได้ 53.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30.11% รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายสินค้าเพื่อสร้างความปลอดภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล ได้แก่ ชุดป้องกันสารเคมีและเชื้อโรค หน้ากาก ถุงมือ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังจัดหาสินค้าอื่นๆที่เกี่ยวข้องมาจำหน่ายเพิ่มเติม เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ น้ำยาฆ่าเชื้อ เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ในหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลและสาธารณสุข ที่บริษัทฯให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมช่วยเหลือวิกฤต COVID-19 ในครั้งนี้ สำหรับธุรกิจด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค หรือ WATER มีสัดส่วนอยู่ที่ 2.30% โดยมีรายได้ 6.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 95.13% จากการขายสินค้าและการให้บริการติดตั้งโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
“รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าเพื่อความปลอดภัยเพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มลูกค้า ทั้งในกลุ่มโรงพยาบาลและสาธารณสุข กลุ่มตัวแทนจำหน่าย กลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการสินค้าเพื่อใช้งาน รวมถึงเพื่อนำไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมบางกลุ่มยังมีการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการขาดแคลนสินค้าเนื่องจากมีผลต่อกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมในบางกลุ่มก็มีการชะลอคำสั่งซื้อออกไปบ้างจากผลกระทบสถานการณ์โควิด ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีทิศทางที่ดีขึ้น คาดว่าลูกค้าจะเริ่มมีการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น” นายบุญชัย กล่าว
แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 จึงคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา จากความต้องการสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล และอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้งานต่อเนื่องในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบริษัทอาจปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานในบางส่วนไปมุ่งเน้นตลาดสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือสินค้าในกลุ่ม Health care ซึ่งจากวิกฤตโควิด-19 มองว่าจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คนจะหันมาสนใจดูแลตนเองและให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงลูกค้าหลักในอุตสาหกรรม ซึ่งแต่ละสถานประกอบการมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าของบริษัทได้เพิ่มเติมทั้งในกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ สนับสนุนให้รายได้ทั้งปีโต 10-15% ตามแผน
www.mitihoon.com