ดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมายัง Sideway ในกรอบแคบตามที่ประเมิน เนื่องจากหลังจากฟื้นตัวขึ้นมาแรงจากจุดต่ำสุด ปัจจัยพื้นฐานในระยะสั้นๆเริ่มที่จะไม่หนุนการปรับขึ้นต่อของดัชนี โดย i) Valuation เริ่มไม่ถูก (PE ปี 2563 ที่สูงราว +18 เท่า), ii) ตัวเลข GDP ไทย 1Q63 ที่จะรายงานในสัปดาห์หน้า, และ iii) ผลการดำเนินงาน 1Q63 ของหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่สะท้อนการชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น อย่างไรก็ดีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลัง เป็นตัวหนุนให้ PE ยังยืนในระดับที่สูง โดยเฉพาะที่ประชุม กนง กลางสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้ง 2 ปัจจัย ลบ/บวก ที่คานกันอยู่ ทำให้ดัชนี SET index ยัง Sideway โดยมีแนวรับสำคัญ 1,270 จุด / แนวต้าน 1,330 จุด และหากต่ำกว่า 1,270 จุดมีโอกาสส่งสัญญาณพักฐานไปที่แนวรับถัดไป 1,250 – 1,220 จุด / ขณะที่หากมีแรงเก็งกำไรทะลุผ่าน 1,300 จุดได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,330 จุด
ดังนั้นกลยุทธ์สำหรับสถานการณ์นี้เราแนะนำให้ i) มีวินัยต่อการลงทุนให้มากขึ้น กำหนดจุด Stop loss หรือ จุด Trailing stop ล๊อกกำไรให้ชัดเจน, ii) สำหรับการเก็งกำไรสั้น แนะนำหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน (TOP, ESSO) หุ้นกลุ่มขนส่ง (BTS, BEM) และค้าปลีก (CPALL, CRC) เป็นต้น, และ iii) แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานอีกครั้งหากดัชนี SET index มีการพักฐาน เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO, RATCH, BCPG), หุ้น Medium – small cap (JMART และ NEX), และหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF, TFG (ธีมหุ้นปัจจัย 4) เป็นต้น
โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
www.mitihoon.com