ดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมายัง Sideway ในกรอบตามที่ประเมิน โดยหลังจากที่ทะลุ 1300 จุดได้ ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1330 จุด ตามคาด และช่วงท้ายสัปดาห์ดัชนี SET index ปรับฐานเล็กน้อยหลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1330 จุดไปได้ สำหรับสัปดาห์นี้เราประเมินดัชนี SET index จะยังแกว่งตัว Sideway และมีความเสี่ยงที่จะพักฐานหากหลุดแนวรับ 1280 จุด โดยประเมินหากต่ำกว่า 1280 จุด มีโอกาสที่จะพักฐานลงไปแนวรับถัดไปที่ 1250 – 1220 จุด / ขณะที่ยังคงประเมินแนวต้านไว้ตามเดิม 1330 จุด
แม้ที่ประชุม กนง ล่าสุด จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% แต่อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 – 10 ปี กลับไม่ค่อยปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากนัก ทำให้ Earnings yield gap ยังทรงตัวในระดับที่ใกล้เคียงเดิม ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจมากขึ้นเท่าไหร่นัก ในมุมด้าน Valuation อย่างไรก็ดีกลับมีประเด็นลบที่อาจทำให้ตลาดฯเกิดความกังวลมากขึ้นคือ i) ความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ – จีน ii) ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว โดยมูลค่าส่งออกของไทย ไม่รวมทองคำ ในเดือน เม.ย. ติดลบราว -7.5% YoY และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะติดลบต่อเนื่องในเดือน พ.ค.
กลุ่มหุ้นที่มีธีมการลงทุนน่าสนใจ i) กลุ่มรับอานิสงส์นโยบายภาครัฐฯ เนื่องจาก เราประเมินหลังจากที่ภาครัฐฯใช้มาตรการล๊อคดาวน์, แจกเงินเพื่อช่วยเหลือระยะสั้น แล้ว หลังจากนี้จำเป็นต้องเร่งใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ โดยกลุ่มแรกที่เราเริ่มเห็นสัญญาณคือ กลุ่มรับเหมาฯ (STEC) และนิคมฯ (AMATA, WHA) หลังจากที่รัฐบาลจะเริ่มเซ็นสัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภาในเดือน มิ.ย. และหุ้นกลุ่มที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจภาครัฐฯในอนาคต เช่น รถอีวี (EA, NEX) เทคโนโลยีการสื่อสารและ 5G (ADVANC, TRUE, COM7, JMART) ii) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO, GULF, EP) คาดจะได้อานิสงส์ 2 ด้านทั้งจาก ค่าเงินบาทที่เริ่มกับมาแข็งค่า ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q63 มีโอกาสที่จะกลับรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และต้นทุนก๊าซที่ลดลง
www.mitihoon.com
