มิติหุ้น – จุดเริ่มต้นของโครงการ “ทานชวนทาน” เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ “ภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” หลังจากที่เห็นคนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องตกงาน ไม่มีรายได้ และรวมถึงขาดแคลนอาหาร
“จริงๆ มันเริ่มจากผมไปเห็นคลิปที่มีคนไปทานอาหารในร้าน แล้วจ่ายเงินเพิ่มไว้ให้กับร้านอาหาร เพื่อให้ทางร้านส่งต่อให้กับคนที่ลำบากหรือด้อยโอกาสเข้ามาทานอาหารในร้าน และหลายครั้งที่ผมเห็นคนที่ลำบากนั่งอุ้มลูกอยู่หน้าร้านอาหารเพื่ออ้อนวอนขอข้าวกินสักมื้อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า ศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์มันถูกทำลาย ผมก็เลยคิดโครงการ “ทานชวนทาน” เพื่อเชิญชวนให้คนที่พอมีกำลังทรัพย์ เริ่มจากพี่ๆ น้องๆ หรือเพื่อนที่ผมรู้จัก ช่วยกันแบ่งปันให้กับคนที่ขาดแคลน โดยสามารถฝากเงินไว้กับร้านค้าที่มีสติ๊กเกอร์โครงการ “ทานชวนทาน” หรือจะติดต่อขอรับสติ๊กเกอร์เพื่อเพิ่มจำนวนร้านค้าที่จะเข้าโครงการนี้ก็ได้ ซึ่งสติ๊กเกอร์นี้จะเป็นสัญลักษณ์ให้คนที่กำลังลำบากรู้ว่า ร้านไหนสะดวกที่ให้เข้าไปทานอาหารได้ โดยไม่ต้องจ่ายสตางค์ เพราะมีคนจ่าย “เผื่อ” ไว้ให้แล้ว พวกเขาไม่ต้องนั่งรอหน้าร้าน ไม่ต้องสูญเสียคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเอง” ภูวสิษฏ์ระบุ
สำหรับสติ๊กเกอร์โครงการ “ทานชวนทาน” จะจัดทำขึ้น พร้อมกับคูปองอาหาร โดยผู้ที่ต้องการแบ่งปันสามารถนำเงินฝากกับร้านค้าที่เลือก พร้อมกับติดสติ๊กเกอร์โครงการ ลงชื่อในคูปองให้ตรงกับจำนวนเงินที่ฝากไว้ เมื่อผู้มีขาดแคลนมาขอรับอาหาร ก็เพียงแค่ดึงคูปองให้กับเจ้าของร้าน เพื่อให้รู้จำนวนโควต้าอาหารที่แน่นอนว่า ยังเหลืออีกกี่จาน โดยคูปองแต่ละใบจะสามารถรับอาหารได้ 1 จานในราคาจานละ 40 บาท
ภูวสิษฏ์ระบุด้วยว่า โครงการนี้นอกจากจะช่วยผู้ที่กำลังลำบากจากโควิด-19 แล้ว ยังถือเป็นการช่วยเหลือร้านอาหารร้านเล็กๆ ตามตลาด ซึ่งมักจะเป็นร้านเป้าหมายของผู้ที่กำลังลำบาก ที่ไม่กล้าไปร้านใหญ่ ขณะที่ร้านเล็กๆ เหล่านี้ ปกติก็ทำมาหากินลำบากอยู่แล้ว ยิ่งประสบกับภาวะการแพร่ระบาดของไวรัส ก็ไม่อาจจะสามารถแบกรับภาระช่วยเหลือคนที่กำลังขาดแคลนได้
โดยขณะนี้ มีร้านอาหารบริเวณรอบสำนักงานใหญ่ของ “แพงโกลิน” ในซอยสุขุมวิท 22 ทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวมันไก่ รวมถึงร้านบริเวณโรงงานแพงโกลิน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่เข้าร่วมโครงการ โดยในเบื้องต้นมีเป้าหมายจะเลือกร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 50 ร้าน ด้วยทุนประเดิมโครงการ 1 แสนบาท และหวังว่า จะมีผู้ที่สนใจช่วยกันไปแพร่กระจายกันในอีกหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศ
“ถ้าโครงการนี้สำเร็จ เราจะเหมือนมีโรงทานทั่วประเทศ ทุกคนสามารถช่วยแบ่งเบาภาระร้านเล็กๆ และได้ช่วยผู้ด้อยโอกาส โดยที่เจ้าของร้านอาหารในโครงการก็จะเป็นผู้คัดกรองคนที่ควรได้รับ “ทาน” ได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย” ภูวสิษฏ์กล่าว
www.mitihoon.com