มิติหุ้น – PRM เชื่อมั่นผลงานไตรมาส 2/63 โตไม่หยุด เดินหน้าฝ่าวิกฤติไวรัสปรับกลยุทธ์ให้บริการเรือเส้นทางอื่นเพิ่ม พร้อมอัพค่าเช่าเรือกลุ่ม FSU ขึ้นอีก 20% หนุนฐานรายได้และกำไร โบรกฯ ดีดลูกคิดกำไรทั้งปีพุ่ง 24% ให้คำแนะนำ “ซื้อ”
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริมา มารีน หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดย ฝ่ายวิจัย “บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” ระบุในบทวิเคราะห์ คาดกำไรปกติไตรมาส 2/63 จะขยายตัวได้ต่อ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากบริษัทมีการปรับกลยุทธ์กลุ่มเรือ Domestic Tanker ไปให้บริการในเส้นทางอื่น และผลิตภัณฑ์อื่น ทดแทนความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานในภาคใต้ที่ปรับลดลง และมีการปรับราคาให้บริการเรือ FSU ขึ้น 20% จำนวน 2 ลำ ในปลายไตรมาส 1 ทำให้ไตรมาส 2/63 ภาพรวมของอัตรากำไรจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี
ผลงานสดใส-เคาะ“ซื้อ”
ทั้งนี้ จากกำไรปกติไตรมาส 1/63 คิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปีแล้ว จึงคงประมาณการเดิมทั้งปีไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท เติบโต 24% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการให้บริการเต็มปีของกลุ่มเรือ FSU ซึ่งเพิ่มกำลังการให้บริการระหว่างปี 62 และการปรับราคาขึ้นจากอุปสงค์จากเกณฑ์ IMO2020 จำนวนมาก รวมถึงการกักเก็บน้ำมันในช่วงราคาต่ำ ทำให้ทิศทางของบริษัทยังคงสดใส ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 9.30 บาท
อัพค่าเช่าเรือหนุนงบโต
ด้านฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ PRM เผยว่า ภาพรวมไตรมาส 2/63 ในแต่ละกลุ่มธุรกิจยังเดินหน้าทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยเรื่องโควิด-19 ไม่กระทบมากนัก เช่น กลุ่ม “ธุรกิจเรือขนส่งฯ ระหว่างประเทศ” และกลุ่ม “ธุรกิจเรือ FSU” มีความต้องการใช้เรือกักเก็บและขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น และได้ผลตอบแทนจากการปรับค่าบริการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 25% โดยคงเป้ารายได้ปี 63 เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
ส่วนแผนซื้อเรือใหม่ยังเป็นไปตามแผนเดิม โดยบริษัทจะพิจารณาทยอยซื้อเรือเพิ่มอีกประมาณ 5 ลำ แบ่งเป็น เรือ FSU จำนวน 1 ลำ, และเรือขนาดกลางและเล็กอีก 3-4 ลำ จากปัจจุบันมีเรือทั้งหมด 44-45 ลำ นอกจากนี้ มีแผนเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน Big Sea ผู้ให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 2 ของประเทศ เป็น 90% จากเดิม 80% และคาดว่ากลางปี 64 จะเข้าถือหุ้นจะครบ 100% เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
www.mitihoon.com
