ยุคทองธุรกิจเสริมอาหาร New normal คนไทยใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

219

 

มิติหุ้น – ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 โรคอุบัติใหม่ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก แทบทุกประเทศออกมาตรการเข้มงวด เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อให้เร็วที่สุดเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ และประเทศไทยภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อมุ่งรักษาระยะห่างทางสังคม ดำเนินมากกว่า 2 เดือน เหล่านี้ล้วนเป็นแรงบีบให้พฤติกรรมหลายอย่างของผู้คนในสังคมเปลี่ยนไป เพื่อปรับตัวให้เข้ากับภาวะวิกฤตโรคระบาด และเชื่อว่า พฤติกรรมเหล่านั้นจะกลายเป็น “New normal”  (นิว นอร์มอล) หรือความปรกติใหม่ ในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่มากขึ้น ล่าสุดผลสำรวจของ “ดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยดุสิต ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับ New normal ของคนไทยจากสถานการณ์ โควิด-19 ชี้ว่า 45.39% หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกาย รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินเพื่อดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง และปรึกษาแพทย์อยู่เสมอ ๆ

สอดคล้องกับ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ ประเทศไทย ได้ทำการคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเมื่อจบเหตุการณ์การระบาดโควิด-19 เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ เตรียมความพร้อมให้สามารถรับมือกับพฤติกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคระบุว่า ผู้คนจะมีความวิตกเรื่องสุขภาพ (Anxious about Health) มีแนวโน้มการดูแลป้องกันสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเจนวาย (Gen Y) และขยายไปยังช่วงวัยอื่น ๆ เช่น กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ หรือผู้สูงอายุ เนื่องจากมีข้อมูลว่า การรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอจะช่วยป้องกันไวรัสได้ ส่งผลให้อาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความกังวลเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีข้อมูลเอกสารวิชาการนักวิชาการด้านอาหารเผยแพร่เกี่ยวกับรับประทานอาหารให้ได้ภาวะสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด หรือ Optimal Health Level เพื่อช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ หนังสือ Anti Aging รู้ทันโรคภัยชะลอวัยความชรา ของผศ.นพ. มาศ ไม้ประเสริฐ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ และหนังสือเรื่องความต้องการสารอาหาร (Nutrition requirement) โดย ดร. นพ. ประสงค์ เทียนบุญ พบ. MCN หัวหน้าหน่วยโภชนศาสตร์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น จาก New Normal เป็นปัจจัยบวกหนุนให้อุตสาหกรรมกลุ่มเสริมอาหาร ยังคงอยู่ใน “ยุคทอง” เติบโตอย่างน่าจับตา

 นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้าง New normal ใหม่ด้านสุขภาพให้กับผู้คน และยังคงอยู่แม้สถานกาณ์จะคลี่คลายหรือมีวัคซีนป้องกันแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมาได้ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงภัยจากโรคระบาด และหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ให้ห่างไกลจากโรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติเก่า เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรคจากยุง ฯลฯ ซึ่งมีพัฒนาสายพันธุ์ตัวเองใหม่ ๆ อยู่เสมอ ผู้คนจะเริ่มใส่ใจกับอาหารการกิน ที่ต้องมีความสะอาด และมีประโยชน์ มากไปกว่านั้นผู้บริโภคจะเริ่มมองหาแนวทางในการป้องกันสุขภาพของตนเองในด้านต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำพวกวิตามิน เป็นต้น เพื่อรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ และช่วยป้องกันตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ส่งผลให้แนวทางการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคที่ไม่ใช่เป็นเพียงการทานอาหารครบ 5 หมู่ ตามเกณฑ์ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (RDI) เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นอีกต่อไป แต่จะเกิด New normal การบริโภคใหม่ ที่เรียกว่าการรับประทานอาหารให้ได้ภาวะสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด หรือ Optimal Health Level  เพราะการรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารให้ได้รับในระดับ RDI อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้คนต่างต้องการสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงต้องการฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมกับโรคต่าง ๆ ที่พัฒนาตัวเองขึ้นไป Optimal Health Level จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภคใส่ใจดูแลสุขภาพ ซึ่งการบริโภคดังกล่าวจะช่วยซ่อมแซม และฟื้นฟูตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินกลายเป็นตัวเลือกของผู้บริโภคบนวิถี New normal เพื่อสุขภาพ

โดยก่อนหน้านี้ ยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor International) บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก ประมาณมูลค่าตลาดธุรกิจเสริมอาหารและวิตามินในประเทศไทยมีมูลค่า 23,916.80 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่ารวม 20,876.30 ล้านบาท ซึ่งจากเทรนด์ New normal ด้านสุขภาพที่ส่งผลบวกต่อตลาดอุตสาหกรรม เสริมอาหารและวิตามิน  ซึ่งอมาโด้คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตมากกว่าประมาณการดังกล่าว 5-10 % ในปีนี้ โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมรับมือการปรับเปลี่ยนในยุค New normal ที่กลายมาเป็น New norm ด้วยการขยายไลน์สินค้าในกลุ่มวิตามิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่หันมาใส่ใจในด้านสุขภาพมากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้ และเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ เนื่องจากมองว่าการสร้างความแตกต่างที่สำคัญในตลาดคือการรักษามาตรฐานและคุณภาพสินค้าให้ดีที่สุดซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ฉลาดเลือกบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานเชื่อถือ พร้อมทั้งการผสานช่องทางการจำหน่ายแบบ Omni Channel ผสานและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อสะดวกต่อผู้บริโภคในช่องทางที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านคีออสในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ  ผ่านช่องทางออนไลน์ของ อมาโด้ และ Telesales จากการออกรายการโทรทัศน์ชั้นนำ และวางจำหน่ายสินค้าไซส์เล็กใน เซเว่นอีเลฟเว่น 7,000สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองสินค้าและโดยมุ่งเป้าขายกลุ่มลูกค้ากลุ่มแม่บ้าน คนทำงาน

“ที่ผ่านมาโควิด-19 ได้ผลักดันให้การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เติบโตขึ้นในทุกอุตสาหกรรม ใน     ซึ่งช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กเพจของอมาโด้ มียอดการเข้าถึงเติบโตเช่นเดียวกับตลาด ในเดือนกุมภาพันธ์มีผู้เข้าถึง 22 ล้านคน และเติบโตขึ้นเป็น 34 ล้านคน ในเดือนมีนาคมเราได้เก็บรวบรวมฐานข้อมูลลูกค้าไว้ใน Big data โดยมีเป้าหมายผสมผสานช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ให้มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันมาก มีการวิเคราะห์ Big data เพื่อนำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคเข้ามาช่วยให้ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมายมากขึ้น และยังมีการวิเคราะห์หากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่อีกด้วย๓”

www.mitihoon.com