มิติหุ้น-จากกรณี กสทช. จัดประชุมรับฟังความเห็นเฉพาะต่อกลุ่มต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการคัดเลือกผู้ได้รับอนุญาตใช้สิทธิวงโคจรดาวเทียม ภายใต้การกำกับ กสทช. โดยปัจจุบันประเทศไทยมีสิทธิวงโคจรทั้งสิ้น 4 ชุด และหากจัดสรรแล้วเสร็จ จะเปลี่ยนธุรกิจดาวเทียมจากสัมปทานยาวนานกว่า 30 ปี มาอยู่บนระบบใบอนุญาต
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ภาพรวมถือเป็นบวกต่อ บมจ.ไทยคม (THCOM) เนื่องจากดาวเทียมปัจจุบัน 4 ดวง อยู่บนใบอนุญาต 2 ดวง คือ ไทยคม 7 และ 8 ซึ่งยังมีอายุบริการอีกนาน แต่มีข้อพิพาทกับรัฐฯ อยู่ แม้ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีข้อสรุป แต่เชื่อว่าจะช่วยให้มีโอกาสยุติข้อพิพาทในทางบวกมากขึ้น ส่วนดาวเทียมที่เหลืออยู่ในระบบสัมปทาน 2 ดวง คือ iPSTAR และไทยคม 6 ซึ่งคาดจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้ CAT หลังหมดสัมปทานปี 2564 ในส่วนไทยคม 6 เนื่องจากยังมีอายุใช้งานหลังสัมปทานหมดอีกระยะ จึงคาดว่า THCOM จะขอ CAT รับหน้าที่เป็นผู้บริหาร แต่ในส่วน iPSTAR ที่เหลืออายุใช้งานถึงปี 2566 เชื่อว่า THCOM ยังมีความต้องการรักษาฐานลูกค้า iPSTAR ที่ใช้บริการอินเตอร์เนต ซึ่งยังมีศักยภาพเติบโตไว้ แต่มีความจำเป็นต้องส่งดาวเทียมใหม่รองรับหลังหมดอายุใช้งาน โดยปัจจุบัน THCOM อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางระหว่าง 1) ใช้วงโคจรในประเทศ ที่กรณีดังกล่าวน่าจะเดินหน้าสู่การร่วมประมูลวงโคจรไทย และ 2) ร่วมทุนสร้างดาวเทียมกับต่างประเทศ และใช้วงโคจรต่างประเทศ
แม้ปัจจุบันฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างติดตามพัฒนาการแผนดาวเทียมทดแทน iPSTAR แต่เชื่อว่าความชัดเจนแนวทางการจัดสรรในประเทศจะช่วยเปิดทางเลือกให้ THCOM สามารถใช้ประคองธุรกิจระยะยาวดีขึ้นกว่าก่อนหน้าที่ไม่มีความชัดเจน เป็นการยืนยันภาพของการผ่านจุดตกต่ำ ขณะที่ระยะสั้น เชื่อว่าผลประกอบการเริ่มอยู่ในระดับประคองตัวระดับขาดทุนไม่สูงได้ หลังต้นทุนลดลงไปมากจากการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนดาวเทียมหลายครั้ง และควบคุมต้นทุนทุกส่วนเข้มงวด
จากภาพรวมสัญญาณบวกเกณฑ์รัฐฯซึ่งช่วยให้ THCOM อยู่รอดต่อไปได้ในระยะยาว ประกอบกับ มูลค่าพื้นฐาน THCOM ที่ 4.4 บาท ซึ่งอยู่ภายใต้สมมติฐานอนุรักษ์นิยมที่ระยะยาวมีบริการดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 โดยยังไม่รวมผลบวกการส่งดาวเทียมใหม่ทดแทน iPSTAR ยังมี Upside ราว 16% พอลงทุนได้ จึงปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
www.mitihoon.com
