CCET จับตากลุ่มอิเล็คแรง อัพไซด์สูง-เป้า2.52บ. (10/06/63)

548

มิติหุ้น – CCET โบรกฯ สแกนหุ้นอิเล็คทรอนิกส์เชื่อมีโอกาสดีดตัว หลังคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หนุนดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งทุบสถิติ ด้านพื้นฐานธุรกิจยังแข็งแกร่ง P/BV แค่ 0.46 เท่า แถมราคายังต่ำบุ๊ก อัพไซด์สูงถึง 62% ให้คำแนะนำ “ซื้อ”

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อีเล็คโทรนิคส์ในรูปแบบของ Electronics Manufacturing Services (EMS) โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก 2 ประเภทคือ  และอุปกรณ์โทรคมนาคม โดยแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ ประเมินว่า จากดัชนี Nasdaq ปิดตลาดวานก่อนที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกล่มเทคโนโลยี คาดกลุ่มอิเล็กโทรนิกส์ในประเทศมีโอกาสปรับตัวตาม ทั้งนี้หุ้น CCET ปัจจุบัน มีพื้นฐานแข็งแกร่ง กำไรสะสมสูง 1.10 หมื่นล้านบาท ซื้อขาย P/BV ต่ำ 0.46เท่า ราคาหุ้นยังต่ำบุ๊กแวลู มี Upside สูงถึง 62% จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 2.52 บาท
งบQ2โต-ออเดอร์ไหลเข้า
ด้าน “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 คาดยังเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยเรื่องไวรัสโควิด-19 บางประเทศเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งเริ่มเห็นลูกค้าในต่างประเทศมีคำสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น เช่น ลูกค้าจีนที่โรงงานผลิตเริ่มทยอยสั่งออเดอร์หลังกลับมาเปิดประเทศ อาทิ สินค้าอุปกรณ์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม ที่เริ่มมีเข้ามาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.

ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นลูกค้าประจำ และยังมีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เพิ่งเซ็นสัญญา ทั้งลูกค้าจากกลุ่มทวีปยุโรป, อเมริกา, อเมริกาใต้ ในเอเชีย ออสเตรเลีย รวมถึงทวีปแอฟริกา โดยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/63 บริษัทมีจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 142 ราย คิดเป็นสัดส่วนยอดขายต่างประเทศราว 97.75% จากยอดขายรวม

เทคโนฯ 5
G หนุนดีมานด์
อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อมั่นว่าหากสถานกาณณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ลูกค้าอุตสาหกรรม EMS จะเติบโตมากขึ้น และจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในด้านอุปกรณ์เครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ เราต์เตอร์ กล่องแปลงสัญญาณเครื่องพิมพ์ และโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่เป็นตัวเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันคาดว่าความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม และภาคไอที จะเป็นตัวเร่งการเติบโตของตลาดมากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าธุรกิจของ CCET สามารถตอบสนองการเติบโตได้อีกมากในอนาคต    

www.mitihoon.com