จากการที่รัฐบาลได้เพิ่มทางเลือกการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ Super Savings Fund (SSF) แทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ที่ยกเลิกไปตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้นักลงทุนสามารถลงทุนรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ต่อมาภาครัฐได้มีประกาศให้นักลงทุนสามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมใน SSF พิเศษได้นอกเหนือจากสิทธิลดหย่อนเดิมอีกไม่เกิน 200,000 บาท โดยต้องลงทุนเพื่อรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.– 30 มิ.ย. 2563 นี้เท่านั้น
โดยเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา บลจ.ไทยพาณิชย์ ได้เปิดเสนอขาย Super Savings Fund (ชนิดเพื่อการออมพิเศษ) พร้อมกัน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยแอคทีฟ เพื่อการออม – SCB Thai Equity Active Super Saving Fund (SCBEQ–SSFX), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET เพื่อการออม – SCB SET Index Super Saving Fund (SCBSET–SSFX) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70/30 เพื่อการออม – SCB Mixed 70/30 Super Saving Fund (SCB70-SSFX) ซึ่งทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
อีกทั้ง นักลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 1 บาทเท่านั้น และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click, SCB EASY หรือผู้สนับสนุนการขายอื่นๆ อาทิเช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ, บล.ไทยพาณิชย์, บมจ.หลักทรัพย์ ภัทร หรือ บล.โนมูระ พัฒนสิน เป็นต้น
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักลงทุนใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมอย่างเต็มที่ ซึ่งภาครัฐกำหนดให้มีเพียงปีนี้ปีเดียวเท่านั้น จึงได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุน SFF พิเศษ รับหน่วยลงทุนกองทุนทองคำสูงสุดถึง 400 บาทอีกด้วย โดยปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์ มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 26% (ที่มา: มอร์นิ่งสตาร์ ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิ.ย. 2563)
สำหรับกองทุน SCBEQ–SSFX เป็นกองทุนตราสารทุน ลงทุนในหุ้นไทยเฉลี่ยมากกว่า 80% เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็น High Conviction ของแต่ละโมเดลการลงทุน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงสุด พร้อมทั้งผสมผสานหลากหลายโมเดลการลงทุนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา โดยกองทุนนี้นับว่าเป็นกองทุนที่ให้ผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในกลุ่มกองทุน SSFX ทั้งหมด
โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 เดือนอยู่ที่ 6.67% (ที่มา: SCBAM ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค 2563) และมีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 18.61% (ที่มา: SCBAM ข้อมูล ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2563) กองทุน SCBSET–SSFX เป็นกองทุนรวมดัชนี เน้นลงทุนในตราสารทุน ไม่ต่ำกว่า 80% มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Optimized Portfolio เพื่อให้ได้พอร์ตที่มีสภาพคล่องสูง และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับดัชนี SET มากที่สุด ซึ่งนับว่าเป็น บลจ.เดียวในประเทศไทยที่บริหารจัดการกองทุนที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนตามดัชนี SET มีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 15.64% (ข้อมูล ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2563)
และกองทุน SCB70-SSFX เป็นกองทุนผสมที่กระจายการลงทุนในตราสารทุน REITs กองทุนอสังหาริมทรัพย์/โครงสร้างพื้นฐาน ประมาณ 65% -70% และลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากประมาณ 30% เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพและลดความผันผวนของพอร์ต รวมถึงโอกาสได้รับรายได้ระหว่างทาง มีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 12.66% (ข้อมูล ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2563)