มิติหุ้น-PORT ชี้ “การนำเข้า-ส่งออก”ฟื้นคืนชีพ หนุนช่วงไตรมาส 2/63 ลูกค้า“กลุ่มยานยนต์”ตบเท้าเข้าเจรจาใช้พื้นที่คลังสินค้าเพียบ ฟาก “บิ๊กบอส” สั่งลุยเดินหน้า 2 โครงการใหญ่ทำเงิน ทั้ง “โครงการโลจิสติกส์พาร์คและศูนย์กระจายสินค้า”และ “โครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3” หวังปูพรมธุรกิจขึ้นแท่นชั้นแนวหน้าระดับโลก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สหไทย เทอร์มินอล หรือ PORT ให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง โดย นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า ภายหลังจากประเทศจีน “คลายมาตรการล็อกดาวน์” ทำให้การนำเข้าส่งออกสินค้ากลับมาดีขึ้น โดยในช่วงกลางไตรมาส 2/63 ที่ผ่านมามีลูกค้า “กลุ่มยานยนต์” เข้ามาใช้พื้นที่คลังสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประเมินว่าการนำเข้าส่งออกจะเริ่มเร่งตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อกิจกรรมขนส่งผ่านเรือชายฝั่งในนาม “บ.บางกอก บาร์จ เซอร์วิส”และการขนส่งทางบก ในนาม “บ.บางกอก ทรัคกิ้ง เซอร์วิส” ให้เติบโตได้ดีในปีนี้
ลุยสร้างศูนย์กระจายสินค้า
พร้อมกันนี้บริษัทจะเดินหน้าก่อสร้าง “โครงการโลจิสติกส์พาร์คและศูนย์กระจายสินค้า” บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ให้แล้วเสร็จในช่วงปลายปี 63 ภายใต้ “บ.บางกอกโลจิสติกส์ พาร์ค” ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย
ส่วน “โครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3” ภายใต้ “บ.บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล” ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับ “บ. APM Terminals” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผล เพื่อรองรับการขยายตัวของการนำเข้าและส่งออกของประเทศที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 64
ชี้ฐานธุรกิจโตแกร่ง
โดยทั้ง 2 โครงการใหม่ จะช่วยขยายธุรกิจของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และช่วยผลักดันให้ PORT ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับสากลได้ในไม่ช้านี้ อย่างไรก็ดีทั้งปี 63 บริษัทปรับเป้าหมายรายได้เป็นลดลงไม่เกิน 5% หลังเผชิญกับสถานการณ์ Covid-19 กระทบต่อการนำเข้าส่งออกให้หยุดชะงักเป็นการชั่วคราว
www.mitihoon.com
