มิติหุ้น-BCH ผลงานโดดเด่น Q2ผ่านฉลุย รับผลดียอดผู้ตรวจโควิดทะลุ 1 แสนรายแล้ว ด้าน“นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์” ย้ำปีนี้โตแบบฉิวๆตามเป้าหมาย 10-20 % แถมครึ่งหลังรับผลดีไฮซีซันและนโยบายรัฐกระตุ้น“ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” กูรูเคาะเป้า17.50 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ผู้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 12 แห่ง และโพลีคลินิก 1 แห่ง อาทิกลุ่ม รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล,รพ.เวิลดิ์เมดิคอล ,กลุ่ม รพ.เกษมราษฎร์ และกลุ่มรพ.การุญเวช เพื่อให้บริการ สปส. โดย นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส2/63 ถือว่าดีกว่าคาดและยังถือว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร(Q2/62)สุทธิ 243.88 ล้านบาท และมีรายได้ไตรมาส2/62 อยู่ที่ 2,167 ล้านบาท
Q3ไฮซีซันหนุนรายได้โต
ขณะที่ช่วงครึ่งหลังโดยเฉพาะช่วงไตรมาส3 ถือเป็นช่วงไฮซีนซัน และบริษัทยังได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐนโยบายท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ลูกค้าต่างชาติเพิ่มที่จะเริ่มทยอยเปิดประเทศหลักๆอาทิ จีน พม่า ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ และเชื่อมั่นว่ารายได้และกำไรทั้งปี 63 ยังเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 10-20 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 8,998.64 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 1,134.91 ล้านบาท
“ เราไม่ค่อยกังวลกับผลงานไตรมาส2 เพราะได้รับผลดียอดคนตรวจโควิดถล่มทลาย และQ3ยังเป็นช่วงไฮซีซันด้วยปีนี้จึงมั่นใจรายได้และกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 2 ดิจิตหรือราวๆ 10-20 %” นายแพทย์เฉลิมกล่าว
ลูกค้าตรวจโควิดทะลุแสน
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ และไตรมาส2/63 ได้รับชดเชยจากกลุ่มค้าที่เข้ามาตรวจโควิด-19 ซึ่งล่าสุดพบว่า BCH ตรวจไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายนกว่า 1.1 แสนราย ซึ่งสูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน นอกจากนี้บริษัทยังเข้าร่วมโครงการของภาครัฐ เพื่อใช้โรงพยาบาลในเครือเป็น State Quarantine ได้แก่ รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง ,รพ.เกษมราษฏร์ประชาชื่น และ รพ.WMC ด้านต้นทุนบริษัทมีนโยบายควบคุมต้นทุน ได้แก่ การลดค่าโอที และค่าธรรมเนียมทางการแพทย์ จึงส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานไตรมาส2/63 และดีที่สุดในกลุ่ม
ขณะที่สถานการณ์ในครึ่งปีหลังคาดว่าน่าจะดีขึ้น ทั้งรัฐบาลคลายมาตรการ Lockdown เฟส4 กอปรกับเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจ ซึ่งคาดว่าลูกค้าจะกลับมาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะการบริการฉีดวัคซีนที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ที่ 1,176 ล้านบาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท/หุ้น
www.mitihoon.com