มิติหุ้น – จากบทวิเคราะsห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า AEONTS รายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/64F (มี.ค.-พ.ค.63) เท่ากับ 530 ล้านบาท ลดลง -46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน, และลดลง-50%จากไตรมาสก่อนหน้าเป็นไปตามคาด การลดลงเป็นผลจาก 1) สินเชื่อชะลอตัวในช่วง Lockdown, 2) สเปรดแคบลง เพราะ Yield สินเชื่อลดลง,3) ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น แม้ค่าใช้จ่ายดำเนินงานจะลดลงแต่ก็ชดเชยไม่ได้
โดยสินเชื่อช่วง มี.ค.-พ.ค.63 โต +3.8%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ -2% จากไตรมาสก่อน โดยพอร์ตเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล 53% (-2%QoQ), สินเชื่อบัตรเครดิต 40% (-4%QoQ) และสินเชื่อเช่าซื้อ 7% (+11%QoQ) ส่วน NPL ratio ทรงตัวที่ 3.7% เทียบกับไตรมาสก่อน แต่ตั้งสำรองเพิ่ม ทั้งนี้ NPL ratio ทรงตัวเนื่องจากเกณฑ์ผ่อนปรนของธปท. แต่บริษัทตั้งสำรองตามคุณภาพลูกหนี้ทำให้ Credit cost เพิ่มเป็น 10.7% ในไตรมาสนี้ (จาก 8.3% ในช่วงธ.ค.62-ก.พ.63) จึงคาดว่าสินเชื่อไตรมาส 2/64F (มิ.ย.-ส.ค.64) จะฟื้นตัว แต่ Yield ลดลง ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท. ซึ่งในไตรมาส2/64 จะถูกกระทบ 1 เดือนคือส.ค.63 แล้วมีผลเต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3/64 อย่างไรก็ตาม บางส่วนได้รับชดเชยจากการเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้ลูกหนี้ดีที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/เดือนจาก 1.5 เท่าเป็น 2.0 เท่าของเงินเดือน และอุปสงค์สินเชื่อดีขึ้นหลังผ่อนคลาย Lockdown
ฝ่ายวิจัยจึงคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 160 บาท (อิง P/BV ปี 64F ที่ 1.8 เท่า) ณ ราคาหุ้นปัจจุบันมีP/E ปี 64F 12 เท่าและ P/BV 1.3 เท่า ต่ำกว่าบริษัทชั้นนำในกลุ่มที่มี P/BV 4-6 เท่า
www.mitihoon.com
