ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า “บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN” ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โดย “นายธีรภัทร เพ็ชรโปรี” รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะบริษัทได้รับอานิสงส์ช่วง Covid-19 ทำให้ “ช่องทีวีดิจิทัล” ต่างลดต้นทุนและหันมาซื้อ “คอนเทนต์” จาก JKN เพิ่มมากขึ้น
ฮุบดีลขายคอนเทนต์ให้มาเลเซีย
ส่วนการขายคอนเทนต์ในต่างประเทศนั้น เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทได้เซ็นสัญญาในประเทศเวียดนามไปแล้ว และล่าสุดในช่วงไตรมาส 2/63 ก็เพิ่งเซ็นสัญญาขายคอนเทนต์เพิ่มอีก 1 ประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย มูลค่า 30 ล้านบาท และ ยังมองโอกาสในประเทศอื่นๆอีกด้วย เช่น บรูไน มาเลเซีย บังกลาเทศ ภูฏาน ไต้หวัน ดูไบ ศีลังกา แอฟริกาใต้ อียีปต์ เป็นต้น โดยปัจจุบันบริษัทมีคอนเทนต์ในมือที่รอทยอยส่งมอบ(Backlog)ราว 300 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/63 จะเติบโตต่อเนื่อง จากการรุกธุรกิจคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วน “ธุรกิจคอนเทนต์ละครไทยจากช่อง 3” มีแผนบุกในภูมิภาคอาเซียนและยุโรป ล่าสุดได้เซ็นสัญญาประเทศแถบลาตินอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นทั้งปี 63 มั่นใจรายได้จะเติบโตทำนิวไฮ 10-15% จากปีก่อน ส่วนความคืบหน้าการย้ายหมวด mai เข้า SET ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการคาดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/63 นี้
จ่อเข้าSET-Q2ฟันกำไร80ล.
“นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/63 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 80 ล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 16% เมื่อเทียบกับจากไตรมาสก่อน เพราะเชื่อว่า JKN จะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่รุนแรงของ “กลุ่มทีวีดิจิทัล” ผู้ประกอบการยังคงได้รับความกดดันเรื่องค่าโฆษณา จึงต้องพยายามลดต้นทุนคอนเทนต์ ซึ่งคอนเทนต์ของ JKN มีราคาต่ำกว่า
ดังนั้นทำให้ผู้ประกอบการ เช่น ช่อง 8 , ช่อง 3 ,ช่องเวิร์คพอยท์,ช่อง True4U และช่อง GMM25 ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จาก JKN แทนการผลิตรายการเอง ดังนั้นฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ที่ 277 ล้านบาท เติบโตทำนิวไฮ 9.4% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 6.40 บาท
www.mitihoon.com