BLAND ทุ่มกว่า 400 ล้านบาท รุกตลาดค้าปลีก เปิดตัว “คอสโม วอล์ค” ขยายอาณาจักรช้อปปิ้งใจกลางเมืองทองธานี

635

 

มิติหุ้น-บางกอกแลนด์ เดินหน้าพัฒนาธุรกิจค้าปลีก เผยการลงทุนต่อเนื่องจากปี 2562 กว่า 400 ล้านบาท สร้างสะพานทางเดินเชื่อมอาคารศูนย์การค้า ขยายพื้นที่เอาท์เล็ต และล่าสุดเปิดบริการ คอสโม วอล์ค ส่งต่อความครบครันและสมบูรณ์แบบสำหรับการช้อปปิ้งใจกลางเมืองทองธานี คาดครึ่งปีหลังรัฐประกาศผ่อนปรน ประกอบกับศูนย์ฯ อิมแพ็คเริ่มมีงานแสดงสินค้ากลับมาจัดงานจะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของเมืองทองธานีให้คึกคักรการหลังชาชาติธุรกิจอาคาร ขยายพื้นที่เอาท์เล็ต ่วงเดือที่ขาย 4500 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้าง

นายปีเตอร์  กาญจนพาสน์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการลงทุนของบริษัทฯ ในรอบปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ต่อเนื่องมาถึงกรกฎาคม 2563 รวมแล้วกว่า 400 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการรองรับการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในพื้นที่เมืองทองธานี ต่อยอดจากเดิมที่มีศูนย์การค้า 3 แห่ง ประกอบด้วย คอสโม บาซาร์, บีไฮฟ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ และ เดอะ พอร์ทอล รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่เปิดบริการมาระยะหนึ่งแล้ว อาทิ เอาท์เล็ต สแควร์ และ ป็อปปูล่า วอล์ค ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากชุมชน ผู้พักอาศัย นักท่องเที่ยว และผู้ที่มาเยือน อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในแต่ละปีกว่า 10 ล้านคน เลือกรับบริการอย่างต่อเนื่อง

ทางบริษัทฯ จึงได้ขยายการลงทุนเพิ่มความครบครันและสมบูรณ์แบบ สำหรับการช้อปปิ้งใจกลางเมืองทองธานี โดยเริ่มจากพัฒนาเพิ่มพื้นที่เอาท์เล็ต สแควร์ เฟส 5 มูลค่าลงทุน 30 ล้านบาท กระทั่งแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการช็อปแสดงสินค้ากีฬาและแฟชั่นแบรนด์ดังมากมายพื้นที่รวมของเดิม 15,000 ตารางเมตร ถือเป็นเอาท์เล็ตแบรนด์กีฬาพื้นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ต่อมาได้ลงทุนสร้างสะพานทางเดินเชื่อมอาคารต่างๆ ตั้งแต่อาคารแสดงสินค้าอิมแพ็ค โรงแรมไอบิส มาจนถึงศูนย์การค้า คอสโม บาซาร์ ระยะทาง 320 เมตร มีทางเดินเลื่อน 57 เมตร จำนวน 4 ชุดให้บริการ และพื้นที่สะพานที่ออกแบบให้เดินสวนได้อย่างสะดวก ด้วยความกว้างถึง 6 เมตร รวมมูลค่าลงทุน 140 ล้านบาท เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางช้อปปิ้งของลูกค้าได้อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ล่าสุดกับโครงการใหม่ คอสโม วอล์ค มูลค่าลงทุนรวม 245 ล้านบาท เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น พื้นที่รวม 6,800 ตารางเมต แบ่งเป็นพื้นที่เช่าร้านค้า 4,500 ตารางเมตร ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 แล้วเสร็จพร้อมสะพานเชื่อมอาคารคอสโม บาซาร์ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ขณะนี้ได้เปิดให้บริการ พร้อมช็อปสินค้าแบรนด์ดังอย่าง ไนกี้ แฟกตอรี่ สโตร์ นับเป็นเอาท์เล็ตของไนกี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 1,300 ตารางเมตร ร้านดูโฮม ศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งบ้าน สำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ และร้าน MR. D.I.Y. ค้าปลีกรายใหญ่จากมาเลเซีย ซึ่งเป็นร้านค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องเขียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องมือช่าง ของตกแต่งบ้าน แก็ตเจต ของเล่น-ของขวัญ อุปกรณ์ทำความสะอาด เครื่องสำอาง ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก รวมกว่า 14,000 รายการ ราคาเริ่มต้นตั้ง 5 บาท และในเร็วๆ นี้จะมีซ็อปสินค้าแฟชั่น เครื่องแต่งกาย แบรนด์ AIIZ ที่เตรียมมาเปิดบริการร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร เครื่องดื่ม เช่น กาแฟอเมซอน สำหรับผู้สนใจเข้ามาใช้บริการ คอสโม วอล์ค ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.

“คอสโม วอล์ค ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าทุกระดับ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักๆ  คือ ผู้ที่อยู่อาศัย พนักงานภาครัฐ บริษัทเอกชน คณะนักศึกษา อาจารย์ จากโรงเรียน มหาวิทยาลัย ภายในพื้นที่เมืองทองธานี  รวมถึงลูกค้า นักท่องเที่ยว พี่มาพักโรงแรมโนโวเทล และโรงแรมไอบิส กลุ่มผู้คนที่มาร่วมงานประชุมสัมนา มาเดินช้อปปิ้งงานแสดงสินค้า ผู้ปกครองที่มาคอยรับส่งลูกสอบหรือชมคอนเสิร์ตต่างๆ ที่ อิมแพ็ค ถือเป็นจุดนับพบใหม่ ด้วยมีสะพานทางเชื่อมในทุกอาคารจะเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าทุกคนได้เป็นอย่างดี”

นายปีเตอร์  กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ภาครัฐก็ได้ประกาศมาตรการผ่อนปรนข้อปฏิบัติ จะทำให้ช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ประชาชนตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยว จับจ่าย หรือร่วมกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ประกอบกับรับข้อมูลจากศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เริ่มมีการจองพื้นที่จัดงานแสดงสินค้า งานประชุมสัมมนา งานเลี้ยง งานแต่งงาน และอื่นๆ กลับมาแล้ว เชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มลูกค้าในกลุ่มของการท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือใช้บริการศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งในเมืองทองธานีให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง แม้จะเป็นการท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือให้บริการที่เปลี่ยนแปลงสู่วิถีใหม่ new normal ที่ทุกคนใส่ใจเรื่องสุขภาพก็ตาม

www.mitihoon.com