ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือ JMT โดยบทวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ คาดกำไรไตรมาส 2/63 ไว้ที่ 205 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1% เทียบไตรมาสก่อน แต่ยังโตสูงถึง 38% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีประเด็นสำคัญคือ 1. คาดรายได้จากการให้บริการติดตามหนี้ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แม้ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนักอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ในช่วง Lock down ทำให้อัตราสำเร็จในการติดต่อลูกหนี้เพิ่มสูงขึ้น 2. คาดรายได้จากลูกหนี้ที่รับซื้อลดลงเล็กน้อยราว 2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยผลกระทบจากช่วง COVID-19 และการช่วยเหลือลูกหนี้ทำให้กระแสเงินสดรับลดลงบ้าง แต่ในแง่ของรายได้ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากรับรู้รายได้ตามเกณฑ์คงค้าง (EIR) อย่างไรก็ตามรายได้ที่ลดลงเป็นผลกระทบมาจากหนี้บางกองที่ใกล้ตัดต้นทุนหมดในไตรมาสนี้ ทำให้รับรู้รายได้น้อยลง
ขณะที่ 3. การควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมอาจดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากฐานลูกหนี้ที่รับซื้อใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บริษัทยังไม่เพิ่มจำนวนพนักงาน แต่ในอนาคตวางแผนจะนำระบบ IT มาเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้แทน และ 4. สำหรับธุรกิจประกันในไตรมาสก่อนได้รับผลกระทบจากการขายประกัน COVID-19 ที่ต้องตั้งสำรองในระดับสูง (แต่ยอดเคลมจริงอาจต่ำมาก เนื่องจากอัตราการระบาดดีขึ้นเรื่อยๆ) แต่รายได้จากการขายประกันเป็นการทยอยรับรู้รายได้ ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาสนี้ธุรกิจประกันจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้
โดยคงประมาณการกำไรปี 63 ไว้ที่ 850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% และมองช่วงที่เหลือของปีผลประกอบการจะยังแข็งแกร่ง จากผลบวกของหนี้บางกองที่ตัดต้นทุนหมด และปรับสมมุติฐานเงินลงทุนซื้อหนี้ขึ้นเป็น 4.5 -5 พันล้านบาท จากเดิมราว 3.5 -4 พันล้านบาท โดยมองเด่นสุดในกลุ่ม AMC ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 30 บาท
www.mitihoon.com