KKP เด่นสุดปันผล10% Q2รายได้ค่าฟี-IBหนุน (20/07/63)

867

มิติหุ้น – KKP เด่นสุดหุ้นกลุ่มแบงก์ โบรกประเมินกำไรไตรมาส 2/63 แตะ 1.7 พันล้านบาทเติบโตต่อเนื่อง รับผลดีรายได้ค่าธรรมเนียมจากวอลุ่มซื้อขายในภาคตลาดทุนและงานไอบีหนุน จัดเป็นหุ้นปันผลเด่นสูงสุด 10 % ต่อปีเคาะราคาสูงสุด 60 บาท  

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KKP โดยบทวิเคราะห์ บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ประเมินว่าผลงาน KKP ไตรมาส 2/63 ยังโดดเด่นโดยเฉพาะในส่วนของบริษัทในเครือ บล.ภัทรที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในส่วนงานวาณิชธนกิจ(IB) และกำไรจากพอร์ตลงทุน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจธนาคารอย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปี 63 KKP ยังทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 6,045 ล้านบาท จึงประเมินราคเป้าหมายใหม่ที่ 57 บาท/หุ้น  ทั้งนี้ KKP ยังมีตัวช่วยอย่างสำรองส่วนเกินที่ยัง เหลืออยู่มาก ภาวะตลาดทุนที่ยังเอื้อ และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง รวมถึง KKP ถือเป็นหุ้นที่มีปันผลสูงสุดในกลุ่มธนาคาร คือสูงกว่า 10 % ต่อปี

Q2 กำไรยังเติบโต

ด้านฝ่ายวิจัยบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)ประเมินงานไตรมาส 2/63 ยังสามารถเติบโต เบื้องต้นประเมินกำไร 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.80 % เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14.80% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตามแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากธุรกิจตลาดทุนที่มูลค่าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มขึ้นสูงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้น ผลขาดทุนจากทรัพย์สินรอการขายยังลดต่ำลง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยปรับลดลงด้วย ขณะที่แนวโน้ม NPLs ในไตรมาส2/63 จะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สวนทางกับตัวเลขสินเชื่อรวมจะเติบโตลดลงเหลือ 3% จากไตรมาสก่อนที่เติบโต 4.2% เนื่องจากทิศทางยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ในภาวะซบเซา

สินเชื่อเช่าซื้อไม่กระทบ

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประมาณการกำไรปี 63 ของ KKP ไว้ที่ 6.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% จากปีก่อน  ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปรับลดดอกเบี้ยของ ธปท.เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งเป็นสินเชื่อหลักของ KKP นั้นมีเพียงการเลื่อนการผ่อนชำระออกไปเท่านั้น ไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยเหมือนข่าวก่อนหน้านี้ ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 50 บาท ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินราคาเป้าหมาย 60 บาท/หุ้น

www.mitihoon.com