ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อาม่า มารีน หรือ AMA ทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ โดย “นายพิศาล รัชกิจ ประการ” กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/63 จะเติบโตได้ดี เพราะ “ธุรกิจขนส่งสินค้าเหลวทางเรือระหว่างประเทศ” ได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้ต้นทุนปรับลดลง รวมถึงลูกค้ารายใหญ่ 3 ราย ซึ่งติด TOP 5 ระดับโลก คิดเป็น 75% ของรายได้รวม รวมถึงลูกค้ารายย่อยอื่นๆ เข้ามาใช้บริการขนส่งน้ำมันปาล์มและน้ำมันพืชมากขึ้น จน Utilization Rate พุ่งถึง 96% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ที่ต่ำกว่า 80%
ส่วนผลงานไตรมาส 3/63 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีแผนปรับกองเรือให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม 13,000 ตัน/เที่ยว เป็น 15,000ตัน/เที่ยว โดยมีแผนซื้อเรือเพิ่ม 1 ลำ จากปัจจุบันมี 11 ลำ และขายเรือไปแล้ว 1 ลำ โดยปัจจุบันบริษัทให้บริการ 6 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1.เมียนมา, 2. เวียดนาม ,3. ฟิลิปปินส์ ,4. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ , 5. จีน และ 6. อินเดีย
PTGป้อนดีลไม่หยุด
ส่วน “ธุรกิจขนส่งสินค้าเหลวทางรถในประเทศ” ที่ดำเนินการโดยบริษัทย่อย “บ.เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ หรือ AMAL” ล่าสุดลูกค้ารายหลักและเป็นผู้ถือหุ้น อย่าง “บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยีหรือ PTG” ได้เพิ่มปริมาณการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายใหม่ อย่าง “บมจ.เอไอ เอนเนอร์จี หรือ AIE” ก็เพิ่มการขนส่งไบโอดีเซล B100 มากขึ้นเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหม่ๆอีก 2-3 รายด้วย
สำหรับช่วงที่เหลือของปี 63 บริษัทมีแผนเพิ่มกองรถอีก 60-80 คัน ซึ่งเพิ่มไปแล้ว 25 คัน โดยจะเพิ่มในช่วงไตรมาส 4/63 เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ จากสิ้นปีก่อนที่กองรถทั้งสิ้น 211 คัน สำหรับทั้งปี 63 คาดจะเติบโตกว่าปี 62 อย่างไรก็ดีต้องขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันด้วย
ผนึกพันธมิตรลุยโลจิสติกส์ข้ามชาติ
นายพิศาล กล่าวเสริมว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร“กลุ่มโลจิสติกส์” จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการขนส่งในอุตสาหกรรมที่ไม่ซ้ำกับธุรกิจ AMA และเป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิ เบื้องต้นบริษัทจะเข้าไปมีส่วนในการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
www.mitihoon.com