ส่งออกไทยเดือนมิ.ย. หดตัวสูงต่อเนื่อง ฉุดภาพรวมครึ่งแรกของปีวูบ 7.1%

245

ส่งออกไทยในเดือนมิ.ย. หดตัวสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ฉุดภาพรวมส่งออกไทยครึ่งแรกของปี 2563 หดตัว 7.1% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือนมิ.ย. 2563 อยู่ที่ 16,444 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 23.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังรุนแรงและการบังคับใช้มาตรการปิดเมืองหลายระดับ (Lockdown) ในต่างประเทศ ส่งผลให้อุปสงค์โลกอ่อนแรงลง และสายโซ่อุปทานบางส่วนในต่างประเทศชะงักงัน รวมถึงการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศใช้ระยะเวลายาวนานมากขึ้น โดยสินค้าส่งออกศักยภาพของไทยที่หดตัวสูงในเดือนมิ.ย. 2563 ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ (หดตัวร้อยละ 43.1 YoY) ข้าว (หดตัวร้อยละ 25.6 YoY) และเครื่องใช้ไฟฟ้า (หดตัวร้อยละ 15.2 YoY)

อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกอาหารไทยยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องที่ร้อยละ 6.8 YoY ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากมาตรการปิดเมืองที่ทำให้สายโซ่การผลิตชะงักงันในต่างประเทศ ช่วยหนุนความต้องการสินค้าอาหารจากไทยทั้งทางตรงจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น และทางอ้อมจากการเป็นตลาดส่งออกทดแทนประเทศคู่แข่ง และหากพิจารณารายตลาดส่งออกของไทย พบว่า จีนและสหรัฐฯ เป็นเพียง 2 ตลาดหลักที่มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยขยายตัวเป็นบวกในเดือนมิ.ย. 2563 ที่ร้อยละ 12.0 YoY และร้อยละ 14.5 YoY ตามลำดับ

โดยการส่งออกสินค้าไทยไปจีนขยายตัวเป็นบวก ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานที่ต่ำในปีก่อน จากการหดตัวสูงของการส่งออกเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ยางไปจีน ในขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ขยายตัวสูงในเดือนมิ.ย.2563 จากการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ที่เพิ่มขึ้นมากเป็นสำคัญ หากเปรียบเทียบภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือนมิ.ย. 2563 ให้ภาพที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 2563

ทั้งนี้เมื่อหักลบมูลค่าการส่งออกทองคำแล้ว ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในเดือนมิ.ย. 2563 หดตัวร้อยละ 17.3 YoY ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนพ.ค. 2563 ที่หดตัวสูงถึงร้อยละ 27.9 YoY ในขณะที่การส่งออกในแต่ละหมวดสินค้าศักยภาพแม้ในเดือนมิ.ย. 2563 จะหดตัวอยู่แต่ก็เป็นการหดตัวในอัตราที่น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 2563

ศูนยวิจัยกสิกรไทยประเมินภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในปี2563 มีแนวโน้มหดตัวในระดับ 2 หลัก ซึ่งจะเป็นการหดตัวลึกกว่าที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ -6.1 YoY จากทิศทางเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า แม้จะเริ่มมีข่าวดีจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและชาติตะวันตกกับจีนที่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สูงขึ้นดังกล่าวจะส่งผลกดดันทิศทางการค้าของโลกและการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2563

www.mitihoon.com