ดัชนี SET index สัปดาห์ก่อนหน้าพยายามที่จะ Breakout แนวต้าน 1,370 จุด แต่ไม่สามารถปรับขึ้นต่อไปทดสอบเป้าหมายแนวต้าน 1,400 จุดได้ ก่อนที่จะพักฐานตัวลงมาในกรอบแนวรับที่เราประเมินคือ 1,330 จุด ทำให้ภาพรวมของ SET index ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆตามเดิม โดยประเมินแนวรับ 1,340 จุด หากต่ำกว่ามีโอกาสที่จะเป็นการ Breakdown แนวรับสำคัญลงไปทดสอบแนวรับถัดไป 1,320 จุด / แนวต้าน 1,380 จุด หากผ่านไปได้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,400 จุด โดยมีปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามใน 1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้า คือ i) โผการปรับ ครม. โดยเฉพาะกระทรวงสำคัญๆอย่าง กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน และนโยบายต่างๆของ รัฐมนตรีใหม่ ii) ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญๆ ในเดือน ก.ค. (ที่จะรายงานในเดือน ส.ค.) เนื่องจากเดือน ก.ค. เป็นช่วงของการระบาดระลอกที่ 2 ในหลายๆประเทศ และ iii) การรายงานผลการดำเนินงาน 2Q63 ของบริษัทจดทะเบียนและการให้มุมมองแนวโน้มธุรกิจใน 2H63 โดยผู้บริหารแต่ละบริษัท ภายหลังการรายงานผลการดำเนินงาน 2Q63 ซึ่งเราประเมินว่าเดือน ส.ค. มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะผันผวน เนื่องจากจะมีการเกิด Sector rotation ที่ชัดเจนขึ้น (เลือกขายหุ้นที่ 2H63 แนวโน้มไม่ดี ไปยังหุ้นกลุ่มที่แนวโน้มสดใสกว่า)
ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ i) กลุ่มที่ผลการดำเนินงาน Turnaround หรือ โตเด่น เช่น โรงกลั่น (SPRC, TOP, ESSO), ii) สำหรับหุ้นขนาดกลาง – เล็กที่น่าสนใจ และอาจพิจารณาเก็งกำไรเป็นกลุ่มคู่แม่-ลูก อาทิ EA-NEX, JMART-JMT-SINGER, STA-STGT เป็นต้น iii) หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับ Sentiment บวกจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่คาดจะเน้นหนักไปที่งานก่อสร้าง SCC, SCCC เป็นต้น และ iv) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานหลัก 2H63 ยังเติบโต อาทิ GULF, BCPG เป็นต้น
โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
www.mitihoon.com