มิติหุ้น-บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจหลัก คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าสำหรับระบบการส่งและจ่ายกระแสไฟฟ้า และสายไฟฟ้าทั่วไป มีกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยบทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัสระบุว่า ทิศทางกำไรขึ้นสู่ฐานใหม่ของ STARK นับตั้งแต่ ไตรมาส2/63 จากการรับรู้ M&A กิจการที่เวียดนามซึ่งจะมี Synergy ร่วมกันทั้งในด้านขยายฐานลูกค้า ควบคู่กับการลดต้นทุน รวมถึงมองหา Inorganic Growth จากดีล M&A กิจการอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนที่ดีช่วง COVID-19 นอกจากนี้ยังมีลุ้นเข้าดัชนี SET50
โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส2/63ที่ 330 ลบ. (เติบโต 26.5%จากไตรมาสก่อน และ turnaround จาก 2Q62) สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ Thipha กับ Dovina ที่เวียดนาม และ Thai Cable ที่ไทยเข้ามาเป็นครั้งแรกแบบเต็มไตรมาส ทำให้คาดรายได้หลักจะเติบโตอย่างมีนัยฯมาอยู่ที่ 5.9 จาก 3.0 พันลบ.ในไตรมาส1/63
นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการควบคุมต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลงจากค่าที่ปรึกษาธุรกิจที่น้อยกว่าใน 1Q63 ถึงแม้ว่าในงวดนี้จะมีการรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้เพื่อเข้าซื้อกิจการที่เพิ่มขึ้นมีนัยฯก็ตาม โดยรวมคาดกำไรปกติงวด6เดือนแรก(1H63) เท่ากับ 481 ลบ. คิดเป็น 51.9% ของทั้งปี 63 ที่คาดเอาไว้
เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 63 ไว้ที่ 926 ลบ. เติบโตถึง 647.4% จากปีก่อนหนุนหลักจากการรับรู้ Thipha และ Dovina ที่เวียดนาม 9 เดือน โดยช่วง 2H63 คาดกำไรทรงตัวระดับสูงจาก 1H63 ถึงแม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงทยอยฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้น แต่คาดจะได้ผลบวกจาก synergy ระหว่าง PDITL ซึ่งมีต้นทุนทองแดงต่ำ กับ Thipha และ Dovina ซึ่งมีต้นทุนค่าไฟและแรงงานต่ำ มาช่วยหนุนเอาไว้ ขณะที่ปี 2564 คาดกำไรจะเติบโตจากการขายสายไฟให้กับลูกค้ารัฐและเอกชนในเชิงรุกมากขึ้นจึงแนะนำ “ซื้อ”ที่ราคาเป้าหมาย 2.52บ./หุ้น
www.mitihoon.com