ASIMAR ฤกษ์ดีจัดพิธีวางกระดูกงูเรือเก็บขยะ ให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

107

 

มิติหุ้น-ASIMAR ได้ฤกษ์ดี จัดพิธีวางกระดูกงูเรือเก็บขยะ ขนาดความยาวตลอดลำ 15.3 เมตร ให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 2 ลำ มูลค่างานรวมกว่า 42 ล้านบาท โดยเป็นแบบเรือที่พัฒนาขึ้นรองรับความต้องการการใช้งานในการจัดเก็บขยะในทะเลและขจัดคราบน้ำมันด้วยน้ำยาชีวภาพ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯได้ลงนามสัญญาจ้างกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่มอบความไว้วางใจให้ดำเนินการต่อเรือเก็บขยะ จำนวน 2 ลำ มูลค่างานรวมกว่า 42 ล้านบาท  โดยรูปแบบของเรือออกแบบสำหรับการเก็บขยะในทะเลและชายฝั่ง และสามารถทำการจัดเก็บและบรรทุกขยะได้ถึง 2.5 ตัน ได้อย่างปลอดภัย พร้อมระบบเก็บและกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในแม่น้ำหรือทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการย่อยสลายคราบน้ำมัน ซึ่งสามารถย่อยสลายคราบน้ำมันได้ทั้งผิวน้ำ ก้นทะเล และชายหาดจากพลังของจุลินทรีย์ โครงการต่อเรือชุดนี้เป็นโครงการที่บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจ  เนื่องจากได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำให้ประเทศไทยให้ยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2524 ดำเนินธุรกิจหลักด้านการต่อเรือและซ่อมเรือ รวมทั้งงานก่อสร้างด้านวิศวกรรมต่างๆ มานานกว่า 39 ปี มีพนักงานมากกว่า 400 คน และยังเป็นอู่เรือชั้นนำแห่งแรกของประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ISO 14001 : 2015 และ ISO 45001 : 2018 จากสถาบัน Lloyd’s Register ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้จัดสร้างเรือ โดยมีผลงานการซ่อมเรือเฉลี่ยปีละ 80 ลำ และมีผลงานต่อเรือมาแล้วมากกว่า 100 ลำ

ผลงานที่ภาคภูมิใจ ได้แก่ ผลงานต่อเรือตรวจการณ์ปืน ความยาว 180 ฟุต ให้กับกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ เรือดันและลากจูงเอนกประสงค์ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยจำนวน 3 ลำ เรือโดยสารอลูมิเนียมคาทามารานความเร็วสูงให้แก่ บริษัท เรือเร็วลมพระยา จำกัด จำนวน 2 ลำ  เรือโดยสารปรับอากาศให้แก่ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด จำนวน 4 ลำ  เรือกำจัดขยะในลำคลองขนาดเล็กให้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชให้กับกรมโยธาธิการและผังเมืองมากกว่า 16 ลำ  จากประสบการณ์การจัดสร้างเรือข้างต้น บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะบริหารจัดการโครงการต่อเรือนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ทั้งในด้านคุณภาพของการสร้างเรือที่ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุขอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน

“ต้องขอขอบคุณกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่เล็งเห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมทางทะเล และได้มีโครงการนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย คณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการต่อเรือเก็บขยะขนาดความยาวตลอดลำ 15.3 เมตร จำนวน 2 ลำนี้  ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อมของเราทุกคนต่อไป” นายสุรเดช กล่าว

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบัน มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มีอัตราการผลิตเพื่ออุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นและก่อให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี  โดยมีขยะบางส่วนปะปนลงแม่น้ำลำคลองและไหลลงสู่ทะเลในที่สุด ปัญหาขยะในท้องทะเลเป็นปัญหาใหญ่ นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแล้ว ยังสามารถสะสมความเป็นพิษในสิ่งแวดล้อม และห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมถึง ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ในที่สุด ปัจจุบันมีขยะสะสมอยู่ในทะเลเป็นปริมาณมาก โดยเฉพาะเศษพลาสติกที่ธรรมชาติไม่สามารถย่อยได้เองตามธรรมชาติจึงจำเป็นต้องใช้การจัดเก็บออกจากทะเลเพื่อนำไปบำบัดต่อไป

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดเก็บขยะในทะเล เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ว่าจ้างบริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ทำการต่อสร้างเรือเก็บขยะ 2 ลำนี้ เพื่อใช้ในภารกิจจัดเก็บขยะในทะเล และเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้านอื่นๆ อีกด้วย

โครงการต่อเรือลำนี้ นอกจากจะเกิดประโยชน์กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการต่อเรือในประเทศ และเกิดการพัฒนาเทคโนโลยีของคนไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมอีกด้วย

www.mitihoon.com