ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ความเคลื่อนราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้นไปถึง 34.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลให้ราคาทอลทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์อยู่ที่ 2,012 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 2554 และได้สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนไป 31.32% เมื่อเทียบตั้งแต่ต้นปี 63
ส่วนปัจจัยสนับสนุนนั้นด้านนายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุกฯ เปิดเผยผ่านรายการ ชี้ชัดลงทุน “มิติหุ้น” ว่า ปีนี้ทองกำลังทำนิวไฮใหม่ โดยมีปัจจัยสนับสนุน จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะแถบตะวันนออกกลาง และที่สำคัญคือสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงกว่า “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” และ วิกฤตต้มยำกุ้ง
นายชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) ก็ออกมาสนับสนุนเช่นเดียวกันว่า ราคาทองคำ ที่ขึ้นไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ได้ จากปัจจัยสนับสนุน ทั้ง เรื่องของความต้องการใช้ทองคำในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เป็น “SAFE HAVEN” เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ ธนาคารกลางหลายประเทศจะเริ่มถือครองทองคำเข้าไปในพอร์ตมากขึ้น เช่นเดียวกับธนาคารกลางของจีนที่พบว่าเริ่มเก็บสะสมทองเพิ่มแล้วสัดส่วน 2.9 % จากเดิม 2.3 % อนาคตมีโอกาสจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 5 % เป็นได้
www.mitihoon.com